นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลยังมีเครื่องมือทางการเงินและการคลังที่จะใช้ในการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเครื่องมือที่จะนำมาใช้ก็จะต้องในช่วงเวลาที่เหมาะสมเช่นกัน โดยกระทรวงการคลังจะมีหน้าที่ให้ข้อมูลเศรษฐกิจและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากสถานการณ์ค่าเงินบาทค่าผ่านคณะกรรมการที่ปรึกษาเสถียรภาพการเงินที่กำลังจัดตั้งขึ้น ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการจัดตั้ง คณะกรรมการที่ปรึกษาเสถียรภาพการเงิน อาจจะใช้อำนาจนายกฯ ในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ซึ่งหากจัดตั้งแล้วเสร็จคงจะสามารถนัดหารือถึงสถานการณ์ต่างๆ ทันที
“เครื่องมือในการดูแลค่าเงินนั้นยังมีรูมที่จะนำมาใช้ แต่การนำมาใช้ต้องดูจังหวะ และสถานการณ์ ซึ่งเรื่องค่าเงินบาทนั้นคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)หารือกันต่อเนื่องและใกล้ชิด และการนำมาใช้ต้องดูตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตามในการการดูแลค่าเงินเป็นอำนาจของธปท.ซึ่งคงต้องให้เกียรติเขา แต่การหารือร่วมกันจะเป็นการสะท้อนแนวคิดของกระทรวงการคลังที่มีต่อสถานการณ์ค่าเงินบาทได้ เช่น มีผลต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งในต่างประเทศมีคณะกรรมการหารือในลักษณะนี้”นายอุตตมกล่าว
นายอุตตมกล่าวว่า กระทรวงการคลังยังไม่มีแนวคิดที่จะใช้มาตรการทางภาษีเข้าไปดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่าในขณะนี้ สำหรับผลกระทบค่าเงินบาทนั้น มองได้ 2 ด้าน โดยด้านหนึ่งที่มีผลกระทบด้านลบ คือ การส่งออก แต่อีกด้านที่จะเป็นประโยชน์ คือ ด้านการลงทุนที่จะนำเข้าสินค้าในต้นทุนที่ถูกลง
