ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมประจำเดือนมกราคมนี้ สมาคมฯจะหารือถึงสถานการณ์การส่งออกและความสามารถการแข่งขันของข้าวไทยในระยะยาว เนื่องจากขณะนี้พบว่าปริมาณส่งออกข้าวไทยถดถอยลงมาก ซึ่งมาจากปัจจัยสำคัญ คือ 1. เงินบาทไทยแข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่งกว่า 10% ทำให้ราคาข้าวส่งออกของไทยสูงกว่าประเทศส่งออกข้าวโลก40-50% เช่น ข้าวหอมมะลิคู่แข่งส่งออกในราคาตันละ 600 เหรียญสหรัฐ แต่ราคาข้าวหอมมะลิไทยต้องขายตันละ 1,100 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเรื่องนี้อยากให้รัฐบาลออกมาดูแลเน้นในเรื่องไม่ผันผวนเร็วและค่าเงินไม่ควรแข็งค่าเกินคู่แข่งถึง 10%อยู่ปัจจุบัน โดยไม่ต้องกำหนดว่าเงินบาทต่อเหรียญสหรัฐต้องเป็นเท่าไหร่แต่อยากเห็นค่าเงินใกล้เคียงคู่แข่ง 2. ความหลากหลายของชนิดข้าวไทยน้อยกว่าคู่แข่งเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ความต้องการข้าวพื้นนิ่มกำลังเป็นที่นิยมของตลาดนำเข้าโดยเฉพาะตลาดหลักอย่างจีน อาเซียน สหรัฐ หรือยุโรป ทำให้การสั่งซื้อข้าวไทยลดน้อยลงมาก ขณะนี้คุณสมบัติข้าวไทยเปรียบไปมาก เช่น ความหอมของข้าวหอมมะลิลดลง ความสวยงามของเมล็ดข้าวลดลง ซึ่งถึงเวลาแล้วที่ไทยควรมีเจ้าภาพในการพัฒนาพันธ์ข้าวตรงกับความต้องการของตลาดบริโภคข้าวของโลก รวมถึงการวางแผนการทำตลาดในระยะยาว จึงเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมมือกับภาคเอกชน และกลุ่มเกษตรกรในการวางแผนครบวงจร ให้สอดคล้องตั้งแต่การพัฒนาพันธุ์ข้าว การเพาะปลูก การผลิต และการตลาด 3. ปัญหาสารตกค้าง กำลังเป็นที่ตื่นตัวของประเทศนำเข้า เป็นเรื่องที่ไทยต้องควบคุมและดูแลอย่างเข้มงวดตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตถึงการแปรรูป
” บาทแข็งและข้าวไทยไม่ตอบโจทย์ประเทศนำเข้าโลก ที่กำลังเปลี่ยนไปมาก กำลังทำให้ไทยสูญเสียความผู้นำเข้าอันดับต้นๆของการส่งออกข้าวโลก ปกติในช่วง 1-2 เดือนสุดท้ายของปี ข้าวไทยควรส่งออกได้เดือนละ 9 แสนตันถึง 1 ล้านตัน แต่ปีนี้เหลือ 5-6 แสนตันเท่านั้น หลายประเทศเคยนำเข้าจากไทยเกือบล้านตัน เช่น ฟิลิปปินส์ พบว่าปีนี้นำเข้าจากไทยแค่ 1-2 แสนตัน แต่ซื้อจากเวียดนามถึง 1.3 ล้านตัน จึงทำให้ปี 2562 คาดว่าตัวเลขการส่งออกของไทยต่ำกว่า 8 ล้านตันจากเป้าหมาย เหลือ 7.8 ล้านตัน ส่วนปี 2563 คงต้องหารือในสมาคมก่อน ยอมรับว่าปีนี้ดูไม่ออกจริงๆแต่ตัวเลขเฉลี่ยที่ไทยควรส่งออกคือ 8.5-9 ล้านตัน ส่งออกไทยมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะนำไปหารือกับกระทรวงพาณิชย์ต่อไป ” ร.ต.ท.เจริญ กล่าว
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์(พณ.) กล่าวว่า เร็วๆนี้จะนำหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงข้อเสนอภาคเอกชนต้องการให้ไทยเพิ่มการพัฒนาและผลิตชนิดข้าวที่ตลาดโลกต้องการ โดยเฉพาะข้าวพื้นนิ่ม แม้ไทยเริ่มบ้างแล้วแต่ยังน้อยมาก อาจทำให้ไทยเสียตลาดส่งออกข้าวได้ และเตรียมหารือเอกชนที่จะผลักดันการส่งออกข้าวในปี 2563 ให้เกิน 8 ล้านตัน
