คลังผนึกแบงก์พาณิชย์-แบงก์รัฐ-บสย.เดินหน้าแพคเกจช่วยเอสเอ็มอี วงเงิน 3.8 แสนล.

 

ในวันนี้ที่กระทรวงการคลัง นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ร่วมกับนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไปบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) และนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ร่วมกันแถลงมาตรการต่อเติม เสริมทุน เอสเอ็มอีสร้างไทย

นายลวรณ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอกระทรวงการคลัง ในมาตรการต่อเติม เสริมทุน เอสเอ็มอี สร้างไทย วงเงินช่วยเหลือ 3.8 แสนล้านบาท คาดว่าจะให้ความช่วยเหลือต่อเอสเอ็มอีไม่น้อยกว่า 2 แสนราย เพื่อให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีจากปัญหาเศรษฐกิจไทย และค่าเงินบาทแข็ง และเพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีไทยสามารถแข่งขันและอยู่รอดได้ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความไม่แน่นอน รัฐบาล โดยยกระดับให้การส่งเสริมความสามารถของเอสเอ็มอีเป็นวาระแห่งชาติ โดยจะสนับสนุนเอสเอ็มอีตั้งแต่การให้ความรู้ การยกระดับทักษะด้านเทคโนโลยี การขยายตลาด รวมถึงการเข้าถึงแหล่งทุน โดยพัฒนาในทุกมิติคู่ขนานกันไป

นายลวรณ แสงสนิท

สำหรับมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีในส่วนเงินทุนประกอบด้วย 1. กลุ่มเอสเอ็มอีที่มีศัยภาพและต้องการสภาพคล่อง วงเงินรวม 1.85 แสนล้านบาท เป้าหมาย 6.8 หมื่นราย ประกอบด้วย ใช้โครงการ PGS 8 ของ บสย.,โครงการสนับสนุนเอสเอ็มอีรายย่อย ผ่านกองทุน ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เป็นผู้พิจารณาสินเชื่อ วงเงินคงเหลือ 5,000 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี ระยะเวลากู้ไม่เกิน 7 ปี ปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 1 ปี โดยให้ สสว. ให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพแต่ขาดสภาพคล่อง ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่เป็นเอ็นพีแอล แต่มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วด้วย

Advertisement

นอกจากนี้ยังมีโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนของ ธพว. วงเงินคงเหลือ 20,000 ล้านบาท โดยปรับปรุงกลุ่มเป้าหมายให้ลูกหนี้เอสเอ็มอีที่เป็นเอ็นพีแอล และมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วสามารถเข้าโครงการได้ นอกจากนี้ยังมี โครงการสินเชื่อเอสเอ็มอี ประชารัฐสร้างไทย ของธนาคารออมสิน โดย ณ วันที่ 16 ธันวาคม 2562 มีวงเงินคงเหลือ 45,000 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี ใน 2 ปีแรก โดยกำหนดการจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อแทนเอสเอ็มอีเป็นระยะเวลา 4 ปี รวมถึงยังมีโครงการสินเชื่อ กรุงไทย เอสเอ็มอี ของธนาคารกรุงไทย โดยเพิ่มวงเงินสินเชื่ออีก 10,000 ล้านบาท เป็น 60,000 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4% ต่อปี โดยกำหนดการจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อแทนเอสเอ็มอีเป็นระยะเวลา 4 ปี นอกจรกนี้ยังมีโครงการ Direct Guarantee ของ บสย. วงเงินค้ำประกัน 5,000 ล้านบาท วงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 10 ล้านบาทรวมทุกสถาบันการเงิน โดย บสย. เป็นผู้กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกันตามระดับความเสี่ยงของลูกค้า (Risk Based Pricing) ระยะเวลาค้ำประกันไม่เกิน 10 ปี

สำหรับเอสเอ็มอีที่ต้องการสภาพคล่อง มีวงเงินช่วยเหลือ 1.25 แสนล้านบาท เป้าหมายให้ความช่วยเหลือ 1.1 แสนราย ประกอบด้วย โครงการ บสย.เอสเอ็มอีสร้างไทย โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) วงเงินค้ำประกัน 60,000 ล้านบาท จ่ายค่าชดเชยความเสียหายไม่เกิน 40% ของวงเงินค้ำประกัน จากเดิมค้ำประกันไม่เกิน 30% โดยสามารถค้ำประกันให้กับลูกหนี้ที่มีศักยภาพแต่มีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง รวมถึงลูกหนี้ที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ลูกหนี้ Re-finance ที่มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และได้รับอนุมัติสินเชื่อเพิ่มเติมจากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อสนับสนุนให้เอสเอ็มอีที่มีศักยภาพแต่ขาดสภาพคล่องให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้, โครงการ Transformation Loan เสริมแกร่ง (Soft Loan เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ระยะที่ 2) โดยธนาคารออมสิน วงเงินโครงการ 15,000 ล้านบาท ธนาคารออมสินคิดดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ 0.1% ต่อปี และสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการคิดดอกเบี้ยกับเอสเอ็มอีร้อยละ 4 ต่อปีระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี โดยเพิ่มเติมคุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อให้รวมถึงธุรกิจที่เป็นซัพพลายเชน(Supply Chain) และธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจ 10 S-Curve และสามารถให้สินเชื่อกับลูกหนี้ที่เป็นเอ็นพีแอล แต่มีการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว รวมถึงเพิ่มเติมวัตถุประสงค์การกู้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนอย่างเดียวได้

นอกจากนี้มีโครงการ GSBเอสเอ็มอีExtra Liquidity โดยธนาคารออมสิน มีวัตถุประสงค์เพื่อผ่อนปรนภาระการจ่ายเงินต้นและเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ วงเงินโครงการ 50,000 ล้านบาท วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 50 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าชั้นดี (MLR) ลบ 1% (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MLR ของธนาคารออมสินอยู่ที่ 6.375% ต่อปี) ระยะเวลากู้สูงสุด 6 ปี ปลอดชำระเงินต้น 1 ปี

Advertisement

สำหรับเอสเอ็มอีที่บสย.ค้ำประกันและกำลังถูกฟ้อง มีการช่วยเหลือโดยมีวงเงินค้ำจากบสย.ให้ความช่วยเหลือในการค้ำประกัน 7 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะช่วยเหลือได้ 2.8 หมื่นราย ซึ่งเป็นการค้ำประกันจากโครงการ PGS 5 ถึง PGS 7 โดยสามารถขยายระยะเวลาการค้ำประกันในโครงการ PGS 5 ถึง PGS 7 ออกไปอีก 5 ปี รวมถึงยกเลิกเงื่อนไขที่กำหนดให้ บสย. จ่ายค่าประกันชดเชยเมื่อสถาบันการเงินดำเนินคดีกับเอสเอ็มอีโดยให้สถาบันการเงินสามารถปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่เอสเอ็มอีเพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

นอกจากนี้เพื่อสนับสนุนให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะพิจารณาแนวทางการกันสำรองที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในลักษณะเชิงป้องกันไม่ให้เป็นเอ็นพีแอล และกรณีปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ที่เป็น เอ็นพีแอล และมีการอนุมัติสินเชื่อเพิ่มเติม ทั้งของสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งสมาคมธนาคารไทยโดยความร่วมมือของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งจะกำหนดเป้าหมายในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหาในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ รวมถึงพิจารณาขยายระยะเวลาการชำระหนี้และลดดอกเบี้ย เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

รวมถึงยังมีมาตรการภาษีอากรและค่าธรรมเนียม ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2564 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ลูกหนี้ สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการปลดหนี้ของเจ้าหนี้ ได้แก่ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ,ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับการโอนหรือขายทรัพย์สิน การให้บริการ และการกระทำตราสาร เพื่อชำระหนี้ อันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้, ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับการขายอสังหาริมทรัพย์ที่จำนองเป็นประกันหนี้กับสถาบันการเงินให้แก่ผู้อื่น เพื่อนำเงินไปชำระหนี้แก่สถาบันการเงิน (เฉพาะส่วนที่ไม่เกินกว่าหนี้ที่ค้างชำระ), ยกเว้นการดำเนินการตามหลักเกณฑ์การจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ที่กรมสรรพากรกำหนด สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และ ลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดจาก 2% เหลือ 0.01% สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image