นาข้าวนับพันไร่ ในตำบลคลองรี อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา แตกระแหง ขาดน้ำเนื่องจากไกลระบบชลประทาน ชาวนาเผยแล้งหนักในรอบสิบปี วอนรัฐเร่งช่วยก่อนข้าวเสียหายทั้งหมด
วันที่ 8 มกราคม สภาพนาข้าวกว่า 1,000 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลคลองรี อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ที่ขณะนี้ต้นข้าวอยู่ในช่วงตั้งท้อง แต่ฝนกลับทิ้งช่วง ทำให้ไม่มีน้ำเข้านา เกษตรกรแต่ละรายทำนาเอาไว้รายละ 15-20 ไร่ ส่วนใหญ่เริ่มถอดใจ เพราะคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมา หรือทางการไม่ได้ช่วยสูบน้ำเข้านาภายในเดือนนี้ นาข้าวก็คงเสียหายทั้งหมด นางสมคิด หิรัญกูล ชาวนาในตำบลคลองรี บอกว่า การทำนาในฤดูกาลนี้นั้น ชาวนาในพื้นที่นี้ก็ทำนากันตามปกติ หว่านข้าวในช่วงเดือนตุลาคม และรอฝน แต่ปรากฏว่าปีนี้ฝนน้อยมาก จนขณะนี้ข้าวตั้งท้องและเริ่มเหี่ยวแห้ง เกรงจะเสียงหายทั้งหมด เพราะไม่มีแหล่งน้ำสำหรับสูบเข้านา โดยชาวนาหมู่ 3 ตำบลคลองรีนั้น ทำการเกษตรโดยอาศัยน้ำฝนเพียงอย่างเดียว แหล่งน้ำธรรมชาติก็คือ น้ำจากคลองอาทิตย์ และทะเลสาบสงขลา ก็อยู่ห่างไปมากกว่า 2 กิโลเมตร หากทางการไม่ช่วยก็คงต้องปล่อยให้ต้นข้าวแห้งตาย ขาดทุนอย่างแน่นอน และในปีนี้ก็คงจะต้องซื้อข้าวสารกิน “เกษตรกรบางรายนั้นได้พยายามลงทุนสูบน้ำจากแหล่งน้ำที่ขุดเอาไว้ มีต้นทุนเพิ่มขึ้น หวังเพียงว่านาข้าว 1 แปลงจะรอดพ้นจากวิกฤตภัยแล้งที่เกิดขึ้น ส่วนแปลงอื่นๆ นั้นก็ได้แต่ทำใจ ปล่อยให้ข้าวที่กำลังตั้งท้องค่อยๆ ลีบและแห้งตายไปเอง เพราะแม้ทางการจะทราบ แต่กว่าจะทำเรื่อง หางบประมาณมาช่วยมันก็คงไม่ทัน” นางสมคิดกล่าว และว่า นอกจากนาข้าวแล้ว พืชผลต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ซึ่งได้พูดตุยกันก็พบว่า ไม่เคยเกิดปัญหาแล้งหนักเช่นนี้มานานนับสิบปีแล้ว ซึ่งในช่วง 2-3 ปี ก็มีแต่ปัญหาน้ำท่วม แต่ปีนี้นั้นน้ำกลับน้อยมาก
