เครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ตอนกลาง ดีเดย์ 10 ม.ค. เปิดเวทีเสวนา“ทุกข์ใจในสวนยาง”ทวงถาม 3 พรรคร่วมรัฐบาลที่ประกาศประกันราคายางที่ก.ก.ละ 60 -70 บาท
วันที่ 8 มกราคม ที่จังหวัดตรัง นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ เครือข่ายสถาบันเกตรกรชาวสวนยาง เขตภาคใต้ตอนกลางซึ่งมีทั้งหมด 6 จังหวัด ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง กระบี่ พังงา ภูเก็ต และพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง จะเปิดเวทีเสวนา “ทุกข์ใจในสวนยาง” ณ บริเวณในป่าสวนยางพารา สหกรณ์หนองครกจำกัด ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง วันที่ 10 มกราคม โดยจะพูดคุยเกี่ยวกับการแก้ปัญหาราคายางที่ตกต่ำมาตลอด และรัฐบาลก็หาวิธีการแก้ปัญหาโดยการแจกแลกแถมมาหลายปี ซึ่งใช้งบประมาณภาษีของพี่น้องเกษตรกรเป็นเงินมหาศาล ซึ่งถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะพยายามประกาศนโยบายต่างๆ ออกมาก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถแก้ได้ เพราะรัฐไม่มีความจริงใจทีจะแก้ปัญหาราคายางมาตลอด ดังนั้น จึงถึงเวลาที่เครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางทุกระดับ และพี่น้องชาวสวนยาง จะต้องออกมาแสดงพลังทวงถามรัฐบาลในเรื่องนี้
นายถนอมเกียรติ กล่าวอีกว่า ในเวทีเสวนาดังกล่าวจะมีการนำเสนอเรื่องตลาด 3 ประสานที่เครือข่ายสถาบันเกษตรกรได้เสนอมาตลอด คือ ตลาดท้องถิ่นโดยให้สถาบันเกษตรกรเป็นคนรวบรวมยาง เสนอขายน้ำหนักยางในตลาดกลางภายในประเทศ และเปิดตลาดไทยคอม โดยให้ยึดกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว เพียงตลาดเดียว เพราะเป็นตลาดสากลที่เปิดซื้อขายกับคู่ค้าและตลาดกลางทั่วโลกมีการซื้อขายส่งมอบจริงในทันที เพื่อให้เกิดเสถียรภาพด้านราคาการซื้อขาย และยึดเป็นกำแพงทางการค้าแทนตลาดซื้อขายยางในตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่ไม่ได้มีการส่งมอบสินค้าในทันที แต่พอถึงเวลาส่งมอบก็มีการทุบตลาดกดดันบิดเบือนกลไกราคา
“เรื่องนี้เครือข่ายสถาบันเกษตรกรแห่งประเทศไทยเสนอรัฐบาลมาแล้ว 3 ปี แต่รัฐบาลไม่เคยสนใจ รวมทั้งต้องการผลักดันให้รัฐบาลออกกฎหมายนำยางพารามาเป็นส่วนผสมทำถนน เช่นเดียวกับออกกฎหมายบังคับนำน้ำมันปาล์มมาทำน้ำมันเชื้อเพลิงบี 10 และจะทวงถามถึงนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ที่เป็นรัฐบาลในขณะนี้ ที่เคยหาเสียงเอาไว้ตอนเลือกตั้งเรื่องนโยบายแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากมีนโยบายผลักดันราคายางที่ ก.ก.ละ 60-70 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังทำไม่ได้ และราคาก็ไม่แน่นอน เกษตรกรเดือดร้อนหนัก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ ซึ่งเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาราคาน้ำยางสดลดลงเหลือก.ก.ละ 29 บาท และเทศกาลตรุษจีน และสงกรานต์ก็เชื่อว่าจะลดต่ำลงมาอีกเหมือนดังเช่นทุกครั้ง เพราะมีขบวนการจากนายทุนมากดราคาน้ำยางสดให้ตกต่ำ แต่กลับไม่มีใครเข้าไปจัดการ ทั้งๆ ที่การยางแห่งประเทศไทยมี พ.ร.บควบคุมการยางสามารถจัดการกลุ่มคนที่เข้าไปกดดันบิดเบือนตลาดได้ แต่รัฐมนตรี หรือรัฐบาลก็ไม่ดำเนินการอะไร โดยจะนำปัญหาทั้งหมดมาสรุปแล้วนำทวงถามผ่านทางรัฐสภาต่อไป”นายถนอมเกียรติกล่าว
