เครือข่ายสวนยางใต้ตอนกลาง ถาม 3 พรรคร่วม รบ. ไหนประกันราคายางที่ 60 -70 บาทต่อกก.
เมื่อวันที่ 14 มกราคม นายประทบ สุขสนาน ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ตอนกลาง กล่าว ที่บริเวณสวนยางพารา สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง โดยมี ตัวแทนเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพาราภาคใต้ตอนกลาง รวม 6 จังหวัด (นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง กระบี่ พังงา ภูเก็ต ) และพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง ในพื้นที่ ตัวแทนสถาบันเกษตรกรต่างๆ ในพื้นที่ ร่วมเวทีเสวนา “ทุกข์ใจในสวนยาง” เนื่องจากปัญหาความผันผวนด้านราคายางพาราตกต่ำ ที่ชาวสวนยางกำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างหนัก
นายประทบ กล่าวว่า แม้จะได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้การนำของพรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ และมีการออกนโยบายชดเชยราคายางพาราให้แก่เกษตรกร แต่ปัญหาราคายางตกต่ำก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขทั้งระบบ ทั้งนี้ เมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ราคาน้ำยางสดลดต่ำลงมาเหลือกิโลกรัมละ 29 บาท และขณะนี้ราคาได้ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 37 บาท แต่ยังอยู่ในราคาที่ต่ำกว่าทุน ( ซึ่งต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 64 บาทต่อกก.) เกษตรกรก็ยังเดือดร้อนหนัก
“เวทีเสวนามีการเสนอ 3 แนวทางไปยังรัฐบาล เน้นการนำยางมาใช้ภายในประเทศให้มากที่สุด คือ
1. ให้รัฐบาลออก พ.ร.บ.บังคับให้มีการนำยางพารามาเป็นส่วนผสมทำถนนในปริมาณ 5 % เช่นเดียวกับที่รัฐบาลออก พ.ร.บ.กำหนดให้นำน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตเป็นน้ำมันบี 10 จนทำให้ราคาปาล์มน้ำมันถีบตัวสูงขึ้นในขณะนี้
2. เปิดตลาด 3 ประสาน ระหว่างตลาดท้องถิ่นโดยให้สถาบันเกษตรกรเป็นคนรวบรวมยาง เสนอขายน้ำหนักยางในตลาดกลางภายในประเทศ และเสนอข่ายต่อในตลาดไทยคอม (TOCOM) เพียงตลาดเดียว เนื่องจากเป็นการซื้อขายจริงในทันที่ แทนขายยางในตลาดซื้อขายล่วงหน้า เพราะเดิมไทยขายในตลาดล่วงหน้า แต่พอถึงเวลาส่งมอบยางจริง จะมีขบวนการทุบตลาดกดดันบิดเบือนกลไกราคา ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนักมาโดยตลอด ซึ่งเรื่องนี้เครือข่ายสถาบันเกษตรกรแห่งประเทศไทยเสนอรัฐบาลมาแล้ว 3 ปี แต่รัฐบาลไม่เคยสนใจ”นายประทบ กล่าว
และ 3.จะทวงถามถึงนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ที่เป็นรัฐบาลในขณะนี้ ที่เคยหาเสียงเอาไว้ตอนเลือกตั้ง โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย ที่หาเสียงจะผลักดันราคายางที่ ก.ก.ละ 60-70 บาทตามลำดับของแต่ละพรรค แต่จนถึงขณะนี้ยังทำไม่ได้ และราคาก็ไม่แน่นอน เกษตรกรเดือดร้อนหนัก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ ซึ่งเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาราคาน้ำยางสดลดลงเหลือก.ก.ละ 29 บาท และเทศกาลตรุษจีน และสงกรานต์ก็เชื่อว่าจะลดต่ำลงมาอีกเหมือนดังเช่นทุกครั้ง
นายประทบ กล่าวอีกว่า เพราะมีขบวนการจากนายทุนมากดราคาน้ำยางสดให้ตกต่ำ แต่กลับไม่มีใครเข้าไปจัดการ ทั้งๆ ที่การยางแห่งประเทศไทยมี พ.ร.บควบคุมการยางสามารถจัดการกลุ่มคนที่เข้าไปกดดันบิดเบือนตลาดได้ แต่รัฐมนตรี หรือรัฐบาลก็ไม่ดำเนินการอะไร โดยจะนำปัญหาทั้งหมดมาสรุปแล้วนำทวงถามผ่านทางรัฐสภาต่อไป และอย่างไรก็ตาม จะนำข้อสรุปทั้งหมดเข้าสู่การประชุมเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทยที่ จ.น่าน ในวันที่ 14 – 15 มกราคมนี้ เพื่อกำหนดท่าทียื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลต่อไป