สรรพากรจับมือ สตม.เชื่อมข้อมูลคืนภาษีให้นักท่องเที่ยวเพียงผ่านบล็อกเชน

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ในการเชื่อมโยงข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกของชาวต่างชาติผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์  เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้รองรับระบบการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)ให้นักท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain)  ซึ่งกรมสรรพากรถือเป็นรายแรกของโลกที่นำระบบนี้มาใช้คืนภาษีนักท่องเที่ยวโดยจะเริ่มเปิดใช้ในวันที่ 17มกราคม 2563

อย่างไรก็ตามระบบนี้จะอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้รวดเร็วขึ้นจากเดิม  ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นท่องเที่ยวและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยสินค้าในประเทศเพิ่มขึ้น โดยปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 2.6 ล้านราย มูลค่าการซื้อสินค้าจำนวน 46,654 ล้านบาท และทำให้ร้านค้ามียอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นถึง 10%

“ระบบนี้จะลดระยะเวลาการขอคืนภาษีของนักท่องเที่ยวจากเดิมจะใช้เวลา 30 วัน เหลือเพียงคลิกเดียวหรือไม่ถึงวัน เพราะระบบนี้จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบบล็อกเชนตั้งแต่นักท่องเที่ยวผ่านสตม. เชื่อมโยงข้อมูลกรมสรรพากร กรมศุลกากร รวมถึงร้านค้าที่เข้าร่วมแบบเรียลไทม์ ทำให้เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อของแล้วต้องการขอคืนภาษีก็เพียงยื่นหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)ให้ร้านค้าคีย์ข้อมูลว่าซื้ออะไรบ้าง ข้อมูลส่วนนี้จะถูกส่งมายังกรมสรรพากร ก่อนจะถูกส่งต่อไปยังกรมศุลกากรเพื่อทำการคืนภาษีผ่านกระเป๋าเงินส่วนตัว (อี-วอลเล็ต) หรือบัตรเครดิต หลังจากนักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศทันที ”

อย่างไรก็ตามกรมสรรพากรเปิดรับสมัครร้านค้าเข้าร่วมโครงการนี้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม.ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการหรือร้านค้าขนาดใหญ่เข้าร่วมแล้ว 6 ราย  อาทิ คิงพาวเวอร์ เดอะมออลล์ เครือเซ็นทรัล เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างทดสอบระบบก่อนเปิดใช้จริง  โดยคุณสมบัติของร้านค้าที่เข้าร่วมจะต้องมีเครื่องรับชำระบริการที่สามารถเชื่อมโยงกับระบบบล็อกเชนได้

Advertisement

ทั้งนี้ัในช่วงไตรมาสแรก ของปีงบประมาณ 2563 กรมจัดเก็บรายได้แล้ว 393,000 ล้านบาท เกินเป้า 6,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากกรมนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงาน และได้รับอานิสงส์จากมาตรการชิมช้อปใช้ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มโตขึ้น 7% ในช่วงเดือนธันวาคม2562 ที่ผ่านมา

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image