วันที่ 18 มกราคม ผู้ใช้เฟชบุ๊ก ชื่อ Pornsan Panjathe ได้โพสต์ข้อความ ที่พยายามแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นขนาดเล็กจิ๋ว หรือ พีเอ็ม 2.5 ซึ่งตนเองและครอบครัวผจญอยู่ในเมือง โดยการซื้อเครื่องกรองอากาศ และเครื่องปรับอากาศ จนกระทั่งวันหนึ่งอยากจะพาครอบครัวไปพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ ที่เขาค้อ ก็กลับพบการเผาตอซังข้าวจากทุ่งนาสองข้างทาง รวมทั้งยังเจอไฟไหม้ป่าใกล้กับที่พักที่ตัวเองและครอบครัวไปพักด้วย ซึ่งเมื่อหนีฝุ่น พีเอ็ม 2.5 ไปเจอกับควันไฟจากการเผาเข้าอีก ทำให้ผู้ใช้เฟชบุ๊ก Pornsan Panjathe ถึงกับบ่นยอมแพ้ออกมา ซึ่งมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการปัญหาฝุ่น และควันไฟ ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่
ผมโมโหและโกรธกับเรื่องนี้ชิบหาย
ฝุ่น PM2.5 ท่วมกรุงเทพฯ ภรรยาเริ่มไอไม่สบาย วันหยุดลูกก็สงสารเพราะออกไปเล่นนอกบ้านไม่ได้ เลยตัดสินใจพาครอบครัวหนีฝุ่นมาเขาค้อ
เมืองที่ครอบครัวเรามาเป็นประจำ และคาดว่าอย่างน้อยอากาศก็น่าจะดีกว่ากรุงเทพฯ
.
ระหว่างทางขับมาสองข้างถนนหลวง เห็นการเผาทุ่งนาควันพวยพุ่งตลอดทาง หรือไม่ก็เห็นพื้นเป็นเถ้าถ่านจากการเผาที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน
ถึงเขาค้อ เห็นควันคลุมทั้งเมือง กังหันลมแทบมองไม่เห็น อากาศที่หายใจรู้สึกได้ว่ามีกลิ่นควันไฟอยู่ในอากาศตลอดเวลา
เอาวะ ทำใจ มาถึงนี่แล้ว ทำอะไรไม่ได้
.
ออกจากที่พักตอน 4 โมงเย็นเพื่อไปหาข้าวกิน มองไปหน้าที่พักเห็นควันไฟอยู่ไม่ไกล กลิ่นควันไฟในอากาศอีกแล้ว หวังว่าก่อนเข้านอนมันจะดับ
กลับมาถึงที่พักตอนทุ่มครึ่ง เจอกับภาพที่เห็น
ไฟลุกลามไปทั่ว ใกล้ที่พักเข้ามาทุกที กลิ่นควันชัดขึ้นอย่างมาก ทิศทางลมมาทางห้องที่ผมพัก ยังไม่ได้ยินเสียงรถดับเพลิง
.
ผมประเมินสถานการณ์ว่าอยู่ไม่ได้แน่ ไฟเข้ามาใกล้มาก ควันทิศมาทางนี้อย่างเห็นได้ชัด แนวกั้นไฟมีแค่ถนนในโครงการซึ่งมีแนวเสาไฟฟ้า ผมคาดว่ามีโอกาสสูงมากที่ไฟฟ้าจะดับ และหากควันไฟประจวบเหมาะพอดีมันจะรมควันห้องที่ผมพักแบบโหมเข้าใส่
ตัดสินใจหนีมาหาที่พักใหม่ มีลูกเล็กอยู่ด้วยคือเสี่ยงไม่ได้
.
ความคิดแรกในหัวหลังจากหาที่พักใหม่ได้คือยอมแล้ว ผมยอมแพ้
ผมตัดสินใจแก้ปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ด้วยตัวเองมาตลอดเพราะรู้ว่าหวังพึ่งใครไม่ได้ ที่บ้านซื้อเครื่องฟอกอากาศ 3 เครื่อง ติดแอร์เพิ่มเติม ซื้อลู่วิ่ง ลงทุนไปเป็นแสน
มีโอกาสคือพาครอบครัวหนีออกต่างจังหวัด ผมสงสารลูกที่ถ้าอยู่ก็ต้องบังคับให้อยู่แต่ในบ้านเท่านั้น วิ่งเล่นขี่จักรยานอะไรก็ไม่ได้
สิ่งที่เห็นคือการเผาพื้นที่มาตลอดทาง ผิดกฎหมายก็ไม่ได้มีใครเกรงกลัว ไม่ได้มีการร่วมมืออะไร อยากเผากูก็เผา
จนกระทั่งมันใกล้ชีวิตผมส่งผลกระทบขนาดนี้ ผมสรุปว่าผมยอมแพ้แล้ว ไม่ต้องดิ้นรนทำอะไรอีกแล้ว
.
ไม่ต้องไปไหน ผมจะอยู่บ้าน เปิดเครื่องฟอกอากาศ ร้อนมากก็เปิดแอร์ ค่าไฟแม่งจ่ายกันเข้าไป
ผมไม่รู้จะทำอะไรได้มากไปกว่านี้อีกแล้วกับเรื่องพื้นฐานในการดำรงชีวิต แค่เรื่องขอให้มีคุณภาพอากาศที่ดีให้เราได้หายใจ
คือแม่งยอมแพ้จริงๆ
ขอบคุณ เฟชบุ๊ก Pornsan Panjathe
ภาพจากเฟชบุ๊ก Pornsan Panjathe