หนุ่มตุ๋นร้านซูชิหลอกเอาเงินค่าหัวคิวอ้างเป็นพนักงานบริษัทดังเชิดเงินหมื่นหนีพบเคยก่อเหตุมาแล้ว 14 ครั้ง
เมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป.,พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ สว.กก.5 บก.ป.จับกุมนายพงศธร หรือหนุ่ม อยู่ดี อายุ 32 ปี ในคดี “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” มารับทราบข้อกล่าวหาต่อหน้าพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา นายพงศธร ได้เข้ามาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ และอ้างตัวเป็นพนักงานของบริษัทชื่อดังย่านรางน้ำ ทั้งที่ไม่เป็นไปตามคำอ้าง สั่งให้ทางร้านทำซูชิ 150 กล่อง โดยแจ้งว่าจะนำไปเลี้ยงนักท่องเที่ยว โดยตกลงราคากันที่ 68,850 บาท ซึ่งนายพงศธร แจ้งกับร้านว่าให้ทำซูชิจริงในราคา 55,800 บาทเท่านั้น ส่วนเงินที่เหลือ 10,350 บาท ตนขอเป็นค่าหัวคิวที่เป็นผู้สั่งซื้อ เจ้าของร้านจึงให้พนักงานถือซองเงินค่าหัวคิวไปที่บริษัทดังกล่าวกับนายพงศธร โดยระหว่างเดินทางไปนั้นนายพงศธร ฉวยโอกาสดึงซองเงินดังกล่าวไปจากพนักงาน และหลอกให้พนักงานไปรอที่บริษัท แต่สุดท้ายนายพงศธรไม่มาตามที่นัด เจ้าของร้านทราบเรื่องจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก ก่อนไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง
ต่อมาทางตำรวจสืบสวนติดตาม โดยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนทราบว่า นายพงศธร หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งย่านถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายพงศธร สอบสวนยอมรับว่าตนเป็นคนร้ายตามภาพในกล้องวงจรปิดที่ก่อเหตุดังกล่าวจริง ชุดสืบสวนจึงเข้าไปตรวจสอบภายในห้องพักรายวันซึ่งนายพงศธร อาศัยอยู่และพบของกลางเงินสด 10,600 บาท ที่นายพงศธรได้จากการหลอกลวง โดยเจ้าตัวรับว่าจะนำไปเล่นการพนัน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายพงศธร เคยก่อเหตุฉ้อโกงในลักษณะนี้มาแล้วจำนวน 14 ครั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาและให้พนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ดำเนินคดีต่อไป
