ซูเปอร์โพลชี้ คนไทยเบื่อ “ข่าวการเมือง” ที่สุด ผิดหวังทุกเรื่อง เละเทะ กร่าง ทะเลาะกันและสร้างความเกลียดชังในสังคม

ผศ., ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ได้นำเสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่อง “สุดยอดข่าวน่าเบื่อ” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่าน “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” (Social Media Voice) ด้วยระบบ Net Super Poll จำนวน 2,845 ตัวอย่าง และ“เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม” (Traditional Voice) จำนวน 2,160ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 13 –18มกราคม 2563 พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.2 เบื่อข่าวการเมืองมากที่สุด เพราะเละเทะ ผิดหวัง วุ่นวาย กร่าง วางอำนาจบาตรใหญ่ นิสัยแย่ ๆ มีแต่เรื่องเดิม ๆ ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน วัน ๆ ไม่เห็นทำอะไร มีแต่ทะเลาะกัน และสร้างความเกลียดชังในสังคม เป็นต้น

ทิ้งห่างอันดับรองลงมาคือ ข่าวดารา บันเทิง ร้อยละ17.0 เพราะทำตัวไม่เหมาะสม ไม่เป็นตัวอย่างที่ดี ว่ากันไปว่า ยุ่งการเมือง ข่าวมือที่สาม เกี่ยวยาเสพติด เป็นต้น ข่าวอาชญากรรม ร้อยละ 9.7 เพราะซ้ำซาก น่ากลัว สะเทือนใจ หดหู่ สังคมเสื่อม ชั่วร้าย เป็นต้น และ ร้อยละ 12.1 ระบุอื่น ๆ เช่น ข่าวเศรษฐกิจ ปากท้อง สภาพอากาศ มลพิษ เพราะแก้กันไม่ได้เสียที ปัญหาซ้ำซาก น่าเบื่อ เป็นต้น

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึงความรู้สึก ถ้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ถูกยุบ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.8 รู้สึกเฉย ๆ ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเพราะ จะยุบก็ยุบไปไม่เกี่ยวอะไรกับชีวิตประจำวัน ไม่เกี่ยวอะไรกับการทำมาหากิน นักการเมืองไม่เห็นทำอะไร มีแต่ใช้สำนวนโวหาร วาทกรรม ยุยงปลุกปั่นให้สังคมวุ่นวาย พวกอุดมการณ์จอมปลอม จัดกิจกรรมหาเงินเข้ากระเป๋า พอมีอำนาจก็ลืมประชาชน ปกปิดเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชน สุดท้ายประชาชนต้องแก้ปัญหาความเดือดร้อนของตัวเอง เป็นต้น ขณะที่ร้อยละ 33.2 ระบุว่า ได้รับผลกระทบ เพราะเป็นพรรคฝ่ายค้านคุณภาพ ขาดพรรคฝ่ายค้านที่ดี พรรคนี้พูดดีตรงใจประชาชน ขาดพรรคตรวจสอบ เป็นต้น

ผศ., ดร.นพดล กล่าวด้วยว่า ผลการสำรวจ “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” (Social Media Voice) ผ่านระบบ Net Super Poll ในหัวข้อ “ใครอะไรในโลกโซเชียล” พบว่า เมื่อนำบุคคลสำคัญของสังคมไทยสองท่านมาเป็นบุคคลเพ่งเล็งพิเศษ ได้แก่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค. และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงกิจกรรมการเมืองจุดสนใจพิเศษสองกิจกรรมได้แก่ “วิ่งไล่ลุง” กับ “เดินเชียร์ลุง”

Advertisement

พบว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กำลังเข้าถึงคนในโลกโซเชียลภายในประเทศไทย ประมาณ 14,732,645 คน หรือกว่า 14 ล้านคน ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังเข้าถึงคนในโลกโซเชียลประมาณ 19,707,072 คน หรือกว่า 19 ล้านคน โดยค้นพบว่านายธนาธรมีกลุ่มคนในโลกโซเชียลแห่ใช้คำว่า “อย่ากลัวอนาคต” ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีคำว่า “คิดถึงความดีที่ทำไว้”

ที่น่าสนใจคือ การใช้ช่องทางสื่อในโลกโซเชียล พบว่าทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และนายธนาธร กำลังถูกคนในโลกโซเชียลใช้ช่องทางสื่อพูดถึงกล่าวถึงผ่านทางทวิตเตอร์ มาเป็นอันดับที่ 1 รองลงมาคือเว็บไซต์ และเฟซบุ๊ก ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม นายธนาธรถูกใช้ทวิตเตอร์ ร้อยละ 62.7 มากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ 45.6 ขณะที่เว็ปไซต์ ถูกใช้พูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ 38.3 มากกว่านายธนาธร ร้อยละ 29.8 และเฟซบุ๊ก ถูกใช้พูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ 10.6 มากกว่านายธนาธร ร้อยละ 4.6 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ที่น่าพิจารณาคือ กิจกรรมวิ่งไล่ลุง กับ เดินเชียร์ลุง มีการใช้ช่องทางสื่อโซเชียลแตกต่างกัน คือเดินเชียร์ลุงใช้ทวิตเตอร์ร้อยละ 70.7 วิ่งไล่ลุงใช้ร้อยละ 49.4 แต่วิ่งไล่ลุงใช้ยูทูปสูงถึงร้อยละ 45.9 ขณะที่ เดินเชียร์ลุง ใช้เพียงร้อยละ 1.2 โดยมีการใช้เว็บไซต์สูงถึงร้อยละ 26.5 แต่วิ่งไล่ลุงใช้เว็บไซต์เพียงร้อยละ 0.9 เท่านั้น

Advertisement

ผู้อำนวยการซูเปอร์โพล กล่าวด้วยว่า ผลการศึกษาครั้งนี้ยังพบข้อสงสัยด้วยว่า ทำไมข้อมูลในโลกโซเชียลกิจกรรมเดินเชียร์ลุงกลับมีความเชื่อมโยงกับเรื่อง “บิ๊กโจ๊ก” กับ”ผบ.ตร.” อย่างโดดเด่น นอกเหนือจากการเผชิญหน้ากับกิจกรรมของฝ่ายตรงข้ามคือ วิ่งไล่ลุง ที่ดูเหมือนว่าคนในโลกโซเชียลมีอะไรบางอย่างเชื่อมโยงระหว่างเดินเชียร์ลุงกับกรณีของบิ๊กโจ๊กที่คงต้องศึกษาค้นคว้าต่อไป สำหรับใครอะไรในโลกโซเชียล ในขณะที่ ข้อมูลวิ่งไล่ลุงมีความเชื่อมโยงกับไอลอล์ธนาธรและจังหวัดนครสวรรค์ที่อาจเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์อย่างโดดเด่นก็เป็นไปได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image