‘กรมอุตุฯ’ คาด 19-25 ม.ค. เหนือ เจออากาศหนาว กรุงเทพฯ มีฝนบางพื้นที่-หมอกตอนเช้า

‘กรมอุตุฯ’ คาด 19-25 ม.ค. เหนือ เจออากาศหนาว กรุงเทพฯ มีฝนบางพื้นที่-หมอกตอนเช้า

เมื่อวันที่ 19 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเว็บไซต์ “กรมอุตุนิยมวิทยา” พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 19 มกราคม 2563 – 25 มกราคม 2563 การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 19 – 20 ม.ค. 63 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศยังคงเย็นถึงหนาว โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-15 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 19 – 21 ม.ค. 63 บริเวณภาคเหนือตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกตามบริเวณชายฝั่ง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนเป็นบางพื้นที่ และในช่วงวันที่ 22 – 25 ม.ค. 63 บริเวณภาคเหนือตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอื่นๆ มีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า

สำหรับภาคใต้ ในช่วงวันที่ 19 – 23 ม.ค. 63 จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 19 – 21 ม.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก และในช่วงวันที่ 22-25 ม.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ รักษาสุขภาพเนื่องสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย และชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 19 – 23 ม.ค. 63

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา  ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 19 – 21 ม.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง ประกอบกับ คลื่นอากาศในกระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนจะพัดผ่านประเมียนมาเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกเกิดขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 22 – 25 ม.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิสูงขึ้น และบริเวณความกดอากาศสูงนี้ได้เคลื่อนไปปกคลุมประเทศลาว เวียดนาม และทะเจีนใต้ และทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออก และภาคกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ในขณะที่คลื่นอากาศในกระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนได้เคลื่อนผ่านออกไปปกคลุมประเทศลาวและเวียดนาม ทำให้ภาคเหนือมีอุณหภูมิลดลง และบริเวณยอดดอยจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 19-23 ม.ค. 63 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น

Advertisement

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 19 – 21 ม.ค. 63 จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่งทางตอนบนของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 13-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 4-14 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 22 – 25 ม.ค. 63 อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา

อุณหภูมิต่ำสุด 10-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-12 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 19 – 21 ม.ค. 63 อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 22 – 25 ม.ค. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย

อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 20 – 21 ม.ค. 63 มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

ในช่วงวันที่ 22 – 25 ม.ค. 63 เมฆบางส่วนกับมีหมอกในตอนเช้า

อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 19 – 21 ม.ค. 63 มีเมฆบางส่วนโดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 20 – 24 ม.ค. 63 มีเมฆบางส่วนกับมีหมอกในตอนเช้า

อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 19 – 23 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ในช่วงวันที่ 24 – 25 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 19 – 22 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

ในช่วงวันที่ 23 – 24 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 20 – 21 ม.ค. 63 มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 22 – 25 ม.ค. 63 มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีหมอกในตอนเช้า

อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image