เมื่อวันที่ 21 มกราคม ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ 9 ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนกับการใช้เส้นทางถนน สายทุ่งซ่าน-ในควน หมู่ 9 ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ด้านหลังองค์การบริหารส่วนตำบลวังมะปรางเหนือประมาณ 600 เมตร เป็นถนนด้อยคุณภาพ มีฝุ่นดินแดงฟุ้งกระจายตลอดทั้งวัน เปิดประตูหน้าบ้านไม่ได้ กระทบต่อสุขภาพประชาชนและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเด็กและคนชรา หลายคนป่วยเนื่องจากเป็นโรคภูมิแพ้ เดิมถนนสายดังกล่าวเป็นถนนลูกรังธรรมดา โดยช่วงปลายปี 2561 มีหน่วยทหารแห่งหนึ่งได้รับงบประมาณทำโครงการถนนเส้นนี้เป็นถนน “พาราซอยล์ซีเมนต์” ตามนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน “1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร” เพื่อแก้ปัญหายางพาราตกต่ำหวังช่วยเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่เดือดร้อนจากปัญหาราคายางตกต่ำ
แต่ปรากฏว่าถนนสายนี้เมื่อก่อสร้างปรับปรุงแล้วเสร็จกลับพบว่าเป็นถนนด้อยคุณภาพ พื้นถนนไม่ยึดติดกับพื้นถนนเดิม พื้นถนนดินซีเมนต์แตกเป็นชิ้นเล็ก ทำให้เกิดฝุ่นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยัง อบต.วังมะปราง และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังวิเศษ ซึ่งได้จัดโครงการศูนย์ดำรงธรรมสัญจรมาลงพื้นที่ แต่เรื่องก็เงียบ
นายบุญเลิศ แก้วประจำ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 317 หมู่ 9 ต.วังมะปราง อ.วังเศษ จ.ตรัง กล่าวว่า เดิมถนนสายนี้เป็นถนนลูกรังหินคลุก และได้ก่อสร้างเป็นถนน “พาราซอยล์ซีเมนต์” หรือที่ชาวบ้านเรียกสั้นๆ ง่ายๆ ว่า ถนนดินซีเมนต์พารา เมื่อสร้างเสร็จไม่นานก็ชำรุด ทำให้เกิดฝุ่นจำนวนมากฟุ้งกระจายทั้งวัน ชาวบ้านที่นี่ต้องปิดประตูบ้านทุกหลังเพื่อไม่ให้ฝุ่นเข้าบ้าน ออกมานั่งเล่นหน้าบ้านก็ไม่ได้ หลายรายต้องประสบปัญหาสุขภาพ เจ็บป่วยบ่อย ส่วนใหญ่มีอาการไอและเจ็บคอ บางคนเป็นโรคภูมิแพ้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลแก้ปัญหาให้ประชาชน
นางบุญปลอด วรรณวัตต์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 250 หมู่ 9 ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เล่าว่า เดิมตนเปิดร้านขนนจีน และน้ำแข็งหวานไสบริเวณหน้าบ้าน แต่เมื่อถนนมีฝุ่นเยอะทำให้ตนขายของไม่ได้ เพราะฝุ่นฟุ้งเข้าร้านทำให้ของที่นำมาขายมีฝุ่นเกาะติด จึงขายไม่ได้ต้องหยุดขายมายาวนาน ชาวบ้านที่กรีดยางในตอนเช้าก็ไม่ได้กินขนมจีน และตนเองก็ขาดรายได้ เดือดร้อนอย่างมาก
สำหรับถนนสายทุ่งซ่าน-ในควน เป็นถนนมีชาวบ้านอาศัยในบริเวณนี้ประมาณ 80 ครัวเรือน มีประชาชนประมาณกว่า 200 คน เป็นถนนที่ใช้สัญจรหลัก โดยเฉพาะหากช่วงน้ำหลากถนนสายบางพระ-คลองชี ถูกน้ำท่วมผ่านไม่ได้ ชาวบ้านต้องใช้เป็นเส้นทางหลักในการสัญจรหลบน้ำท่วม และเป็นถนนที่เชื่อมต่อไปได้หลายพื้นที่ เช่น อ.สิเกา, อ.วังวิเศษ และมุ่งสู่ จ.กระบี่ ได้
