นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) มีมติเห็นชอบการเพิ่มทุน ธ.ก.ส.อีก 20,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเกษตรกรและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากได้ครบทุกมิติ ว่า เงินจำนวนดังกล่าวจะทำให้ ธ.ก.ส.มีเงินทุนมากถึง 80,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร และเศรษฐกิจฐานราก โดยหลังจากนี้ธ.ก.ส.เตรียมจัดทำแผนงานระยะเวลา 5 ปี เพื่อส่งเสริมสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เกษตรกรรุ่นใหม่ให้หันกลับมาสู่ภาคการเกษตร ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน การท่องเที่ยวชุมชน และกองทุนหมู่บ้านต่อไป
นายอภิรย์ กล่าวถึงการลงนามบันทึกความร่วมมือ การเผยแพร่ความรู้ทางการเงิน การลงทุน การส่งเสริมการออมเงิน สำหรับเด็กนักเรียนและเยาวชนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า ความร่วมมมือดังกล่าว เพื่อ ปลูกฝังความรู้ทางการเงินและสร้างวินัยการออม ฝึกฝนให้เด็ก เยาวชน นักเรียนรู้หลักการบริหาร การจัดการทางการเงินที่ถูกต้อง เสริมสร้างลักษณะนิสัยด้านความรับผิดชอบ ซึ่งธ.ก.ส.ดำเนินการผ่าน โครงการโรงเรียนธนาคาร มาตั้งแต่ปี 2551 ปัจจุบันมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนธนาคาร 2,330 โรงเรียน มีสมาชิกโรงเรียนธนาคารกว่า 8 แสนราย และมียอดเงินฝากรวมกว่า 1 พัน ล้านบาท
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การส่งเสริมความรู้ด้านการเงินและการลงทุนเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม รวมถึงปลูกฝังการมีวินัยควบคู่กับการออมให้แก่เด็กและเยาวชน ซึ่งการออมเป็นทักษะพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิต ส่วนการลงทุนเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งยั่งยืนและเพิ่มมูลค่าของเงินออมในระยะยาว โดย ธ.ก.ส. มีโครงการโรงเรียนธนาคารที่ดำเนินการมา 11 ปี จึงเป็นโอกาสดีที่ ก.ล.ต. เข้ามาเรื่องการลงทุนโครงการดังกล่าวที่ เช่น การอบรมให้ความรู้ด้านตลาดทุนแก่พนักงานของ ธ.ก.ส. เพื่อสอนนักเรียนในโครงการต่อไป นอกจากนี้ก.ล.ต.มีแนวคิดออกกองทุนรวมเพื่อเด็กและเยาวชน สามารถซื้อได้ขั้นต่ำตั้งแต่ 1 บาท เพื่อสนับสนุนให้เกิดการออมระยะยาว ใช้แนวทางของประเทศญี่ปุ่นที่สนับสนุนให้มีการออมตั้งแต่แรกเกิดมาปรับใช้ในไทย
