‘ซีพีออลล์’ เสริมทัพเอสเอ็มอีสุดแกร่ง จัดงานวันแห่งโอกาสดี@CP ALL

นายบัญญัติ คำนูณวัฒน์ ที่ปรึกษาคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้จัดงาน “วันแห่งโอกาสดี@CP ALL” ครั้งแรกในปี 2562 และ “วันแห่งโอกาสดี@CP ALL สัญจร” ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ในรูปแบบ “ตลาดนัดแห่งโอกาส” เพื่อมอบโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการขนาดเล็กและกลาง (เอสเอ็มอี) นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ซึ่งถือว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงเตรียมจัดงาน “วันแห่งโอกาสดี@CP ALL 2020” ขึ้นอีกครั้ง เพื่อมอบโอกาสดีเหล่านี้ให้แก่ทุกภาคส่วน ระหว่างวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ 2563 ที่พื้นที่ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยขณะนี้บริษัทต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างงานให้กับประชาชนทั่วไปที่สนใจ เนื่องจากซีพีออลล์และเซเว่น พร้อมรับพนักงานจำนวน 35,000 อัตรา จำนวน 11,700 สาขา ซึ่งหากผู้ใจมีความสนใจก็สามารถเข้ามาติดต่อสอบถามได้ รวมถึงยังเตรียมมอบทุนการศึกษากว่า 12,000 ทุน มูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะคัดเลือกตามคุณสมบัติที่เหมาะสมและทยอยมอบต่อไป

นายบัญญัติกล่าวว่า สำหรับแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้ จะเป็นการมอบ 7 โอกาสให้แก่ผู้สนใจ ได้แก่ 1.โอกาสรับทุนการศึกษา 2โอกาสในการมีงานทำ 3.โอกาสร่วมธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่น 4.โอกาสเป็นคู่ค้าธุรกิจ 5.โอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดี 6.โอกาสทางความรู้ และ 7.โอกาสช้อปสินค้าดีมีคุณภาพ ผ่านพื้นที่ 9 โซน ได้แก่ 1.โซนองค์ความรู้ (เวทีใหญ่) 2.โซน Pavilion 3.โซนทุนการศึกษา 4.โซน Job Fair 5.โซนสินค้าเกษตรคุณภาพ 6.โซนสินค้าเอสเอ็มอีคัดสรร
7.โซนเอสเอ็มอีคลีนิค 8.โซนจับคู่พันธมิตรธุรกิจ และ 9.โซนบันไดสู่การร่วมธุรกิจร้านเซเว่น โดยผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานทุกโซนได้ฟรี รวมถึงยังมีการจัดมอบความรู้ที่สำคัญด้านการศึกษาแบบเจาะลึก และเคล็ดลับสู่ความสำเร็จของเอสเอ็มอี เพื่อเพิ่มความแข็งแรงมากขึ้น และที่สำคัญยังมีการเปิดพื้นที่สำหรับให้ผู้ที่ต้องการจะวางจำหน่ายสินค้าในเซเว่น อีเลฟเว่น และ 24 shopping รวมถึงต้องการร่วมธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สามารถมาพบปะหาข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้โดยตรง

“ขณะนี้บริษัทมีการนำสินค้าของเอสเอ็มอีเข้าไปจำหน่ายผ่านช่องทางการขายของบริษัทกว่า 20,000 รายการ เป็นสินค้าเกษตรอีกกว่า 50,000 รายการ ซึ่งถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับเอสเอ็มอีเพิ่มเติม รวมถึงสร้างช่องทางจำหน่ายสินค้าและทำตลาดร่วมกัน นอกจากนี้ยังสามารถสร้างงานให้กับผู้ประกอบการด้านอื่นๆ อาทิ ผู้รับเหมาขนส่ง ผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่จะต้องขนสินค้าหรือสร้างสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติม เนื่องจากบริษัทไม่ได้มีทีมงานเฉพาะในด้านดังกล่าว จึงเชื่อว่าโครงการนี้จะสร้างประโยชน์ให้ประชาชนในหลายด้าน”นายบัญญัติกล่าว

นางสุทธิกานต์ มาสำราญ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมและประสานเครือข่าย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2563 ในภาพรวมของการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในส่วนของการดำเนินงานของสำนักงานฯ และแผนงานบูรณาการ เพื่อให้สามารถทำธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง รู้ทันการเปลี่ยนแปลงและก้าวสู่การทำธุรกิจสมัยใหม่ โดยมีกิจกรรมทั้งในด้านการให้คำปรึกษานำ การพัฒนาเครือข่าย การพัฒนาสินค้าและบริการ การพัฒนาองค์ความรู้ด้านมาตรฐาน การบริหารจัดการ การใช้นวัตกรรมเพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่ม และการลดต้นทุน เนื่องจากที่ผ่านมาปัญหาหลักของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีคือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน การจัดทำสถานะเงินทุนให้ผ่านเกณฑ์การเข้าถึงแหล่งเงินทุน การขาดความรู้ในการบริหารจัดการในองค์กร การทำสินค้าวห้ได้มาตรฐาน และการพัฒนาสินค้าเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุด ซึ่งสสว.จะเข้าไปช่วยเหลือเอสเอ็มอีเหล่านั้น เพื่อเสริมความแข็งแกร่งมากขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image