สมอ.ออกมาตรฐานเอสเคิร์ฟภายในปีนี้กันของห่วยทะลักเข้าประเทศ

สมอ.เร่งออกมาตรฐานเอสเคิร์ฟ 120 ชนิดภายในปีนี้ ทั้งรถไฟฟ้า ลิเธียมไอออน กันของห่วยทะลักเข้าประเทศ พร้อมเร่งออกมอก.ทั่วไปเครื่องยนต์ยูโร 5 ยูโร 6 รองรับบังคับใช้ปี 64

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) เปิดเผยว่า ปีนี้สมอ.จะเร่งออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.)ในกลุ่มสินค้าอุตสหากรรมสมัยใหม่(เอส – เคิร์ฟ) ตามนโยบายนายสุริยะ จึงรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ต้องการให้ผู้ประกอบการผลิตสินค้าได้คุณภาพระดับสากล เพิ่มขีดความสามารถผู้ประอบการ และที่สำคัญเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในการใช้สินค้า  เบื้องต้นจะออกเป็นมอก.ทั่วไป 120  มาตรฐาน เน้นรถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

“สินค้าในกลุ่มเอส- เคิร์ฟ เป็นสินค้าที่ผู้ประกอบการเพิ่งเริ่มผลิต และนำเข้า ยังไม่กำหนดมาตรฐานขึ้นมา จึงจะนำมาตรฐานของสากล มาเป็นกรอบกำหนดมาตรฐานของไทย เพื่อพิจารณายกร่างมาตรฐานเร็วขึ้น และต่อไปจะดูว่าสินค้าประเภทใดจำเป็นต้องกำหนดเป็นมาตรฐานบังคับ เพื่อยกระดับต่อไป ช่วยผู้ประกอบการมีมาตรฐานกลางในการผลิต และนำเข้าสินค้า และยังคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ใช่ว่า ใช้แล้วเกิดไฟดูด ไฟช็อต ใช้ไม่นานก็เสีย”นายวันชัยกล่าว

นายวันชัย กล่าวว่า มาตรฐานที่จะออกในกลุ่มอุตสาหกรรมเอส-เคิร์ฟ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อาทิ เซลล์ลิเธียม-ไอออน สำหรับการขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อาทิ อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อาทิ อุปกรณ์ช่วยในการลอยตัวส่วนบุคคล อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อาทิ แผ่นยางปูทางปูพื้นสำหรับผู้พิการทางสายตา อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อาทิ เครื่องล้างผัก เครื่องสลัดน้ำออกจากผัก เครื่องหั่นผัก อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อาทิ ตัวควบคุมแบบโปรแกรมได้ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อาทิ พลาสติกชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิตอล อาทิ ซิสเตม แอนด์ซอฟแวร์ เอ็นจีเนียริง และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อาทิ ถุงมือสำหรับการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ท่อหลอดคอและข้อต่อ

Advertisement

นายวันชัย กล่าวว่า นอกจากนี้จะเร่งออกมาตรฐานการระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์มาตรฐานยูโร 5 และยูโร 6 เป็นมาตรฐานทั่วไปภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 และหลังจากโรงกลั่นน้ำมันมีความพร้อมผลิตน้ำมันยูโร 5 ภายในเดือนมกราคม 2564 ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) จะออกเป็นมาตรฐานบังคับต่อไป ส่วนรถจักรยานยนต์จะออกมาตรฐานยูโร 4 ขณะที่รถบรรทุก และรถโดยสารขนาดใหญ่ 6 ล้อขึ้นไป ขณะนี้มาตรฐานบังคับระดับยูโร 3 แต่กำลังจะยกไปสู่มาตรฐานยูโร 5 โดยจะดูความพร้อมของโรงงานผู้ผลิต เพราะการที่ยกขึ้นไปทีเดียว 2 ระดับ จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นคันละเกือบ 1 แสนบาท

“ทั้งหมดนี้จะต้องยกระดับรถยนต์ทุกขนาดไปสู่ระยะยูโร 5 ให้ทั้งหมดตามที่ ครม. กำหนด หากทำได้ตามเป้าหมาย จะช่วยลดมลพิษทางอากาศ และฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ไปได้มาก”นายวันชัยกล่าว

นายวันชัย กล่าวว่า ส่วนการออกมาตรฐานบีซีจี หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ตามนโยบายของรัฐบาลนั้น สมอ.ตั้งเป้าจะออกมาตรฐานกลุ่มนี้ให้ได้ 40-50 มาตรฐาน ขณะนี้อยู่ระหว่างออกมาตรฐานเซอร์คูลาร์อีโคโนมี และมาตรฐานกรีน เพื่อกำหนดมาตรฐานให้แต่ละโรงงานลดปล่อยของเสีย ลดปล่อบมลพิษ โดยในปี 2564 จะตั้งคณะอนุกรรมการ 2 ชุด คือ คณะอนุกรรมการออกมาตรฐานเซอร์คูลาร์อีโคโนมี และคณะอนุกรรมการออกมาตรฐานกรีน ซึ่งคณะอนุกรรมการจะออกกฎเกณฑ์รายละเอียดต่างๆออกมา อาทิ โรงงานขนาดเท่าไร ควรจะมีของเสียออกมาเท่าไร หรือในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมจะมีของเสียออกมาได้เท่าไร

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image