09.00 INDEX ความเฉียบขาด แบบ ‘สี จิ้นผิง’ กับ สถานการณ์ ของการตั้งรับ
ไม่ว่ากรณีฝุ่น PM 2.5 ไม่ว่ากรณีไข้หวัด โคโรน่า จากนครอูฮั่น ประเทศจีน มีความสัมพันธ์กับศรัทธาและความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลอย่างสูง
ไม่ว่าต่อรัฐบาลจีน ไม่ว่าต่อรัฐบาลไทย
หากความสำเร็จของจีนในการบริหารจัดการเรื่องฝุ่น PM 2.5 เป็นแบบอย่างอันโดดเด่น กระบวนการบริหารจัดการในเรื่องไข้หวัดโคโรน่าก็นำไปสู่การเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญ
โดยเฉพาะเมื่อมีการบริหารจัดการในแบบของ สี เจิ้นผิง มาเป็น บรรทัดฐาน การเรียกร้องต่อการบริหารจัดการในแบบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงดำเนินไปด้วยความเข้มข้น
การเกิดปรากฏการณ์ #รัฐบาลเฮงซวย อันมาพร้อมกับข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัด โคโรน่า จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดี
ทุกอย่างไม่น่าจะเป็นไปในแบบพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก
แม้ว่าในเบื้องต้นบทบาทของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อาจมีข้อกังขา แต่ก็สามารถปรับตัวรับกับ สถานการณ์ด้วยความรวดเร็ว
เห็นได้จากการจัดตั้ง “วอร์รูม” เพื่อรับมืออย่างเป็นการจำเพาะโดยประสานเข้ากับกระทรวง ทบวงกรมที่เกี่ยวข้อง
ยิ่งการไลฟ์สดอย่างเหนือความคาดหมาย ยิ่งสร้างคะแนน
ในสถานการณ์อันมากด้วยความเสี่ยงของโรคระบาดเช่นนี้ การสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาเป็นปัจจัยสำคัญ
เพราะว่าสิ่งที่มาพร้อมกับโรคระบาดคือความตื่นตระหนก การรับมือกับสถานการณ์ด้วยความสุขุมจึงมีความจำเป็น เพราะสภาพที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนก็คือ ข่าวลือ
ต้องยอมรับว่าสภาพการณ์เหล่านี้ กระทรวงสาธารณสุข สามารถตั้งรับได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือ
แม้ว่าสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นกับจีนกับสภาพการณ์อันประเทศไทยประสบอยู่ มีความแตกต่างกัน
เพราะว่าจีนเป็นแหล่งของโรค ขณะที่ไทยอยู่ในลักษณะตั้งรับ
กระนั้น การตั้งรับของประเทศไทย ก็มีความจำเป็นต้องตั้งรับในลักษณะอันเป็นการรุก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรุกเข้าไปให้ความมั่นใจต่อประชาชนไทยที่ติดค้างอยู่ในจีน
มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ประเทศไทยไม่เพียงแต่พร้อมให้ความอบอุ่น หากแต่ต้องพร้อมเข้าไปช่วยเหลืออย่างทันกับสภาพการณ์
ความเฉียบขาดในแบบ สี จิ้นผิง จึงมีความจำเป็นเร่งด่วน
เพียงแต่เมื่อนำมาปรับประสานกับสถานการณ์ของประเทศไทย จะทำอย่างไรจึงจะเหมาะสมและสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาได้
นี่คือบทเรียนของจีน นี่คือบทเรียนของไทย
