‘เน็กซัส’คาดตลาดพื้นที่อุตฯปี 63 แนวโน้มบวก รับเงินลงทุนต่างชาติปี62แผ่ว

‘เน็กซัส’คาดตลาดพื้นที่อุตฯปี 63 แนวโน้มบวก นโยบายภาครัฐหนุน รับเงินลงทุนต่างชาติปี62แผ่วจากศก.โลก-กระทบมาสด้าย้ายฐานผลิตรถบางรุ่นกลับญี่ปุ่น

นายธีระวิทย์ ลิ้มทองสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส เรียลเอสเตท แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดพื้นที่อุตสาหกรรมชั้นนำในปี 2563 ว่า ตลาดพื้นที่อุตสาหกรรมมีแนวโน้มเป็นบวกจากการผลักดันโครงการเขตพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษ(อีอีซี)ของภาครัฐ รวมถึงความคืบหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มเห็นรูปร่างชัดเจน อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังจับตามองภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด รวมถึงค่าเงินบาทที่คาดว่าจะยังคงแข็งค่าต่อไป ขณะที่ผลสำรวจภาพรวมตลาดพื้นที่อุตสาหกรรมปี 2562 พบว่า เติบโตจากการผลักดันของภาครัฐ ทั้งโครงการอีอีซีที่เริ่มชัดเจน ทั้งพื้นที่ สิทธิประโยชน์ และความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้เกิดการซื้อขายที่ดินในเขตอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง อย่างดีลใหญ่จากอาลีบาบามูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาทเมื่อปลายปี สามารถสร้างความคึกคักให้กับตลาดได้เป็นอย่างดี

นายธีระวิทย์ กล่าวว่า พื้นที่บริเวณตอนเหนือกรุงเทพฯ ตะวันออกกรุงเทพฯ และบริเวณอีสเทิร์นซีบอร์ดในปัจจุบัน ที่ดินนิคมอุตสาหกรรมเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันมีที่ดินพร้อมขายสะสมในนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำประมาณ 168,000 ไร่ ขายไปแล้วกว่า 87% ส่วนราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5.7 ล้านบาทต่อไร่ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 9% และยังพบว่าจังหวัดชลบุรีมีราคาซื้อขายที่ดินในนิคมอุตสหกรรมสูงที่สุดอยู่ที่ประมาณ 11 ล้านบาทต่อไร่ ขณะที่ตลาดโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า มีทั้งสิ้น 2.5 ล้านตารางเมตร มีอัตราเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 77% ราคาค่าเช่าพื้นที่โรงงานสำเร็จรูปปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยราคาค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 205 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน คาดว่าจำนวนพื้นที่ให้เช่าและราคาจะปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยตามทิศทางตลาดและทิศทางดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานที่เห็นภาพชัดเจน

สำหรับตลาดคลังสินค้าสำเร็จรูปในนิคมอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเป็นที่ต้องการมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ ที่ส่งผลให้ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าเติบโตขึ้นอย่างมาก เนื่องจากมีความต้องการใช้พื้นที่คลังสินค้าเพื่อเก็บ คัดแยก และส่งต่อสินค้าต่างๆ ไปยังผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันจำนวนพื้นที่โรงงานสำเร็จรูปให้เช่า มีทั้งสิ้นประมาณ 4 ล้านตารางเมตร เพิ่มขึ้นประมาณ 2% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน อีกทั้งมีอัตราการเช่าที่ประมาณ 90% และค่าเช่าเฉลี่ยประมาณ 160 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

Advertisement

“พบว่าเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติยังคงมีเข้ามาเรื่อยๆ แต่เนื่องจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกในปี 2562 และผลจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติในปีที่ผ่านมามีไม่มากนัก และจากความผันผวนเศรษฐกิจโลกส่งผลให้บางธุรกิจ โดยเฉพาะภาคการส่งออก อาทิ อุตสาหกรรมรถยนต์ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เห็นได้ว่า บางบริษัทตัดสินใจลดกำลังผลิตในไทยลง เนื่องจากต้องแบกรับค่าใช้จ่ายสูงขึ้น อาทิ มาสด้า ที่ย้ายฐานการผลิตรถบางรุ่นกลับไปที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นชาติที่มีจำนวนโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมในเขตอีอีซีมากที่สุด 167 โครงการ คิดเป็นสัดส่วน 24% ของโครงการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด และมีมูลค่าเงินลงทุนสูงถึง 59,187 ล้านบาท คิดเป็น 29% ของมูลค่าเงินลงทุนรวมจากต่างประเทศที่ยื่นขอรับการส่งเสริมทั้งหมด”นายธีระวิทย์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image