หุ้นไทยปิดร่วง ลบ 10.89 จุด แรงกังวลโคโรน่าไวรัส ฉุดหุ้นแข็งแกร่งปรับฐานลง

วันที่ 28 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ1,524.15 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,531.53 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,513.26 ปรับลดลง 10.89 จุด หรือ0.71% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,535.23 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,507.36 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่67,113.51 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 907.10 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 2,262.61 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 651.20 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ3,820.91 ล้านบาท

โดยนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปิดปรับตัวลดลง หลังจากภาคเช้าเคลื่อนไหวในแดนบวก เนื่องจากมีกลุ่มคนตีความว่า มีกลุ่มหุ้นที่เชื่อมโยงกับโรคระบาดเชื้อโคโรน่าไวรัส ได้แก่ กลุ่มส่งออก อิเล็คทรอนิกส์ และสินค้าเกษตรเนื่องจากมีการประเมินว่า การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในเมืองใหญ่ๆ ของจีนหยุดชะงักไป สะท้อนได้จากบริษัทที่มีฐานผลิตในจีน ราคาหุ้นก็ปรับลดระดับลง อาทิ ซีพีเอฟ ที่ปรับตัวลงเล็กน้อย โดยหุ้นกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ นำโดยเดลต้า ปรับลดลงเกือบ 10% เคซีอี 5% ซึ่งเมื่อหุ้นเหล่านี้ปรับลดลง ก็ทำให้บรรยากาศในตลาดหุ้นไทยที่ไม่ได้ดีมากนักนั้น นักลงทุนตกใจจึงเกิดแรงขายขึ้น โดยจะเห็นภาพของการขายหุ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเป็นกลุ่มหุ้นที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าภาพรวมตลาดขึ้น ส่วนหุ้นกลุ่มที่อ่อนแอมากกว่าภาพรวมตลาด อาทิ ท่องเที่ยวโรงแรม สายการบิน ความจริงไม่ได้ปรับลดลงมาก

แต่ตัวที่ปรับลดลงมากจริงๆ เป็นกลุ่มที่แข็งกว่าตลาดมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จึงเป็นการปรับฐานให้หุ้นอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น

สำหรับภาพรวมตลาดในวันพรุ่งนี้ (29 มกราคม 2563) ประเมินว่าปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยยังเป็นเรื่องเดิมๆ ซึ่งการปรับตัวลงของตลาดในช่วงที่ผ่านมา ก็ทำให้หุ้นขนาดใหญ่ปรับฐานลงมาในระดับใกล้เคียงกัน จึงค่ดว่าน่าจะเห็นการฟื้นตัวของดัชนีได้ โดยโรคระบาดไวรัสโคโรน่า ในประเทศไทยผู้ที่ติดเชื้อไวรัสส่วนมากมาจากประเทศจีน ในส่วนของคนไทยที่ติดมาจากคนจีน หรือคนไทยติดสู่คนไทย ภาพยังไม่ได้เกิดขึ้น และยังไม่มีผู้เสียชีวิตในประเทศไทย ทำให้มองว่าการระบาดของไวรัสโคโรน่าในประเทศไทย ยังสามารถควบคุมได้ จึงมองว่าหากแรงกดดันเป็นเรื่องเดิมๆ ภาพก็น่าจะเบาลงกว่าที่ผ่านมา รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจากโรคระบาด เริ่มยืนได้ จึงคาดว่ากลุ่มพลังงาน่าจะมีโอกาสในการฟื้นตัวกลับ และพยุงตลาดได้นายณัฐพลกล่าว

Advertisement

นายณัฐพลกล่าวว่า ในส่วนของกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ เลือกลงทุนในหุ้นปลอดภัย ได้แก่ หุ้นกลุ่มสื่อสารอาทิ แอดวานซ์ อินทัช โรงพยาบาล อาทิ บีดีเอ็มเอส และหุ้นปันผลสูง ส่วนกลุ่มหุ้นที่ต้องการให้จับตาในช่วงต่อไปคือหุ้นกลุ่มรับเหมา เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญจะมีการพิจารณารับหรือไม่รับ ในเรื่องการเสียบบัตรแทนกัน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีทางออกในเรื่องงบประมาณประจำปี 2563 ไม่นาน และน่าจะเป็นทางออกที่ไม่ได้ทำให้งบประมาณล่าช้าไปอีก 3-6 เดือนดังที่ตลาดกังวลกัน ทำให้อาจเห็นบรรยากาศในกลุ่มรับเหมาปรับตัวดีขึ้น โดยประเมินว่าอาจเป็นกลุ่มที่ปรับขึ้นมาแข็งแกร่งกว่าภาพรวมตลาดได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image