ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ แรงแบบเงียบๆ : โดย นายพล

DCIM100MEDIADJI_0048.JPG

นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของค่าย ฮอนด้า ก็ว่าได้ เมื่อ ฮอนด้า ประกาศลุยอีโคคาร์ เฟส 2 โดยการนำ ฮอนด้า ซิตี้ จากเดิมเป็นรถบีคาร์ หรือ รถเก๋งขนาดเล็ก เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร มาทำเป็นอีโคคาร์ เฟส 2 หลังจาก อีโคคาร์ เฟสแรก ฮอนด้า แตกไลน์รุ่นใหม่ คือรุ่น บริโอ้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

สำหรับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ รุ่นนี้ นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 5 มาครั้งนี้ไม่ธรรมดา เพราะมีการปรับบุคลิกไปอีกขั้นแห่งยนตรกรรมซิตี้คาร์ จากเดิมส่วนใหญ่ลูกค้า ซิตี้ จะเป็นผู้หญิง เพราะโดดเด่นในเรื่องความอเนกประสงค์ แต่มาครั้งนี้ ซิตี้ เติมความสปอร์ต พร้อมใส่ทีเด็ดขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร วีเทค เทอร์โบ (VTEC TURBO) และครั้งแรกกับรุ่น RS ชุดแต่งสไตล์ RS รอบคัน เพื่อพยายามขยายกลุ่มตลาดไปยังกลุ่มผู้ชายมากขึ้น

ดีไซน์ภายนอก ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบโครเมียม มือจับประตูด้านนอกแบบโครเมียม (เฉพาะรุ่น SV) และมือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น V และ S) เสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว (รุ่น SV และ V) ล้อขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ (เฉพาะรุ่น S) และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว (เฉพาะรุ่น RS)

ภายในห้องโดยสาร เบาะที่นั่งดีไซน์ใหม่ มีให้เลือกทั้งแบบเบาะหนังกลับ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น RS) เบาะหนัง (เฉพาะรุ่น SV) และเบาะผ้า (รุ่น V และ S) ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ หรือภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV) คอนโซลหน้าแบบ เปียโน แบล๊ก (Piano Black) (เฉพาะรุ่น RS และ SV) คอนโซลกลางมาพร้อมที่วางแขนขนาดใหญ่ (เฉพาะรุ่น RS, SV และ V) ช่องเก็บของตรงกลางด้านหลัง สามารถวางขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตร มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม (เฉพาะรุ่น RS, SV และ V)

Advertisement
ภายในรุ่น RS

มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ มาตรวัดเรืองแสงสีแดง (เฉพาะรุ่น RS) หรือสีขาว (เฉพาะรุ่น SV และ V) พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น RS, SV และ V)

สำหรับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ รุ่น RS ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน กระจังหน้าแบบ กลอส แบล๊ก (Gloss Black) และสัญลักษณ์ RS มาพร้อมกันชนหน้าและกระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว สปอยเลอร์หลังแบบ กลอส แบล๊ก พร้อมสัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง และสีภายนอกใหม่ สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) เฉพาะรุ่น RS เท่านั้น

Advertisement

จุดเด่นของ ซิตี้ ใหม่ คือขุมพลังเทอร์โบใหม่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร ดีโอเอชซี วีเทค เทอร์โบ (DOHC VTEC TURBO) 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม เทอร์โบ ชาร์เจอร์ (Turbo Charger) ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะการขับขี่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร

ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ทางฮอนด้าระบุว่า 23.8 กิโลเมตร/ลิตร แต่ในการใช้งานจริงประมาณ 10 กว่าๆ กม.ต่อลิตร

สำหรับรุ่น RS ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ มาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร รองรับน้ำมัน E20 ได้

มีฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีล้ำสมัย ได้แก่ ฮอนด้า คอนเนคต์ (Honda CONNECT) (เฉพาะรุ่น RS) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์และทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ให้คุณและรถยนต์สามารถสื่อสารกันได้ มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชั่นการทำงาน มี 8 ฟังก์ชั่นการใช้งานหลัก ช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ได้แก่

1.มาย เซอร์วิส (MY SERVICE) สามารถตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป

2.ไดรฟ์วิ่ง บีแฮฟวีเออร์ (DRIVING BEHAVIOR) จะบันทึกข้อมูลการขับขี่และแสดงพฤติกรรมการขับขี่ต่างๆ แสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี

3.ไวไฟ (WIFI) เชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ ใช้งานได้พร้อมกันสูงสุด 5 อุปกรณ์ โดยลูกค้าสามารถสมัครแพคเกจอินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่าย เอไอเอส โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย

4.แอร์แบ๊ก เดพพลอยเมนท์ (AIRBAG DEPLOYMENT) เมื่อถุงลมทำงาน ฮอนด้า คอนเนคต์ จะส่งสัญญาณแจ้งผู้ใช้งานผ่านทางแอพพลิเคชั่นทันที และส่งข้อความสั้นไปยังเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน นอกจากนี้ ระบบจะส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าฮอนด้า เพื่อประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น

5.ซีเคียวริตี้ อะลาร์ม (SECURITY ALARM) ช่วยแจ้งสถานะเมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก

6.รีโมต วีฮิเคิล คอนโทรล (REMOTE VEHICLE CONTROL) สั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด รวมถึงฝากระโปรงหน้าและฝากระโปรงท้าย สามารถสั่งสตาร์ตเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และการสั่งดับเครื่องยนต์ สามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย

7.จีโอ เฟนซ์ แอนด์ สปีด อะเลิร์ท (GEO FENCE & SPEED ALERT) สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้

8.ไฟนด์ มาย คาร์ (FIND MY CAR) สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์

นอกจากนี้นังมี ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบแอดงวานซ์ ทัช (Advanced Touch) รองรับการเชื่อมต่อ แอปเปิลคาร์เพลย์ และระบบสั่งการด้วยเสียง สิริ (SIRI)

มีระบบปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) ในทุกรุ่น ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) (เฉพาะรุ่น RS, SV, และ V) ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 2 ช่อง (เฉพาะรุ่น RS และ SV) ช่องจ่ายไฟสำรอง ด้านหน้า 1 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น RS)

ส่วนเทคโนโลยีความปลอดภัย ได้แก่ โครงสร้างตัวถังนิรภัย จี ฟอร์ซ คอนโทรล (G-Force Control) หรือ จี-คอน (G-CON) ถุงลม 6 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น RS) ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และ ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) สามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน ในจังหวะเกียร์ถูกเปลี่ยนมาอยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง (เฉพาะรุ่น RS และ SV)

มีระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) บนพื้นถนนที่ลื่น ระบบป้องกันล้อ ล็อกช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถและหักพวงมาลัยหลบสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้า ขณะที่ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) จะช่วยกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง เพื่อให้ความสมดุลกับน้ำหนักในการบรรทุกและเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก

มีระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist-VSA) เป็นระบบช่วยป้องกันการลื่นไถลออกทางด้านข้าง ให้ความมั่นใจในระหว่างการขับ การเลี้ยว หรือการหยุด และให้การทรงตัวที่ดี

ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist-HSA) ระบบจะทำหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้ตัวรถเคลื่อนที่ไปทางด้านหลังในจังหวะที่มีการปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรกเมื่อรถยนต์จอดอยู่บนทางลาดชัน

มีสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal-ESS) เป็นระบบที่ทำงานโดยอัตโนมัติ โดยสัญญาณไฟฉุกเฉินจะทำงานเมื่อมีการเหยียบเบรกกะทันหัน เป็นการแจ้งเตือนรถที่ตามมาข้างหลัง

มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS สีขาวแพลทินัม (มุก) เฉพาะรุ่น RS และรุ่น SV สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า เฉพาะรุ่น V และรุ่น S พร้อมสีภายในห้องโดยสารสีดำ (รุ่น RS, V และ S) และทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV)

มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น RS ราคา 739,000 บาท รุ่น SV ราคา 665,000 บาท รุ่น V ราคา 609,000 บาท รุ่น S ราคา 579,500 บาท

โดยภาพรวมแล้ว ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มากับความแรง ทั้งในช่วงการออกตัวหรือแม้แต่การวิ่งในระยทางไกล แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความอเนกประสงค์ความสะดวกสบายให้เสียบุคลิกของรถยนต์ค่ายฮอนด้าที่มีจุดเด่นในเรื่องเหล่านี้ ทั้งในเรื่องเบาะนั่งสบาย ด้านหลังไม่อึดอัด มีช่องใส่ของหลากหลายจุด และทีเด็ดอีกอย่างก็คือ ความเงียบในห้องโดยสาร ทำได้ดีทีเดียว

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image