เพื่อช่วยเหลือคนให้มากขึ้น เชิดชูเกียรติ 2 แพทย์-นักวิจัย รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล
“รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล” เป็นรางวัลที่มอบให้แก่บุคคลหรือองค์กรทั่วโลกที่มีผลงานดีเด่นเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ ใน 2 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการแพทย์ 1 รางวัล และด้านการสาธารณสุข 1 รางวัล เป็นประจำทุกปี และตลอดระยะเวลา 27 ปีที่ผ่าน มีบุคคลหรือองค์กรได้รับรางวัลแล้วทั้งสิ้น 83 ราย โดยในปี 2562 มีผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล จำนวน 2 คน จากการเสนอชื่อทั้งหมด 66 ราย 35 ประเทศ ได้แก่ ด้านการแพทย์ ศ.ดร.ราล์ฟ เอฟดับเบิลยู บาร์เทนชลากเกอร์ หัวหน้าภาควิชาโรคติดเชื้อ อณูไวรัสวิทยา มหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก และหัวหน้าหน่วยไวรัสที่สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็ง สถาบันวิจัยมะเร็งแห่งเยอรมนี สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และด้านการสาธารณสุข ศ.นพ.เดวิด เมบี ศาสตราจารย์สาขาโรคติดต่อ และภาควิชาวิจัยคลินิก วิทยาลัยสุขภาพและเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยลอนดอน สหราชอาณาจักร
โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ไปในการพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี พ.ศ.2562 และพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้ได้รับรางวัล
สำหรับ ศ.ดร.ราล์ฟมีผลงานสำคัญในการค้นยาต้านไวรัสอักเสบซีรุ่นใหม่ “ดีเอเอ” (DAA : direct acting antiviral) ซึ่งโรคไวรัสตับอักเสบซี เป็นสาเหตุของโรคตับแข็งและมะเร็งตับ ที่มีประชากรมากกว่า 71 ล้านคนทั่วโลกที่ติดเชื้อ และเสียชีวิตร่วม 4 แสนคนต่อปี เผยว่า ในฐานะตัวแทนทีมคณะทำงานรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้รับรางวัลนี้ และอุปสรรคในการทำงานมี 2 เรื่องใหญ่ๆ เรื่องแรกคือการค้นหาวิธีเพาะเลี้ยงเซลล์ในช่วงแรกซึ่งยาก ต้องใช้เวลาถึง 7 ปีถึงจะสำเร็จ รวมไปถึงการจะทำอย่างไรให้ทีมงานไม่ท้อถอย และมีความมุ่งมั่น ในอนาคตอยากรักษาคนให้มากกว่านี้ และทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาได้ง่ายขึ้น ด้วยการทำให้ราคายาถูกลง ขณะเดียวกันทางคณะทำงานยังให้ความสนใจและอยากศึกษาเพิ่มเติม “โรคไข้เลือดออก” ด้วยมองว่าเป็นโรคร้ายที่จำเป็นต้องหาทางรักษา
“โรคริดสีดวงตาเป็นโรคที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ การรักษาแต่เดิมต้องใช้ยาป้ายสองวันต่อวัน ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ แต่หลังจากมีการค้นพบยา ก็สามารถรักษาได้ภายในครั้งเดียว ทำให้มีความสะดวกในการใช้มากขึ้นและช่วยคนได้มากขึ้น ส่วนอุปสรรคการทำงาน มองว่าคือความท้าทายที่จะทำอย่างไรให้คนสนใจในงานที่ผมทำ เพราะโรคนี้ไม่ได้เกิดในประเทศที่ร่ำรวย เป็นโรคคนจน คนอาจจะไม่มีความสนใจสนับสนุนเงินทุนในการรักษา ซึ่งโรคนี้ต้องใช้งบในการซื้อยาปฏิชีวนะจำนวนมาก” ศ.นพ.เดวิดกล่าว และทิ้งท้ายว่า
“จากการศึกษาครั้งนี้ยังพบว่า ถ้าให้ยาเอซิโทรมัยซินปีละ 2 ครั้ง อัตราการเสียชีวิตของเด็กอายุต่ำกว่า 1-5 ปี จากโรคมาลาเรียลดลงถึงร้อยละ 13 ขณะที่ในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ลดร้อยละ 25 ซึ่งต้องศึกษากลไกในการรักษาต่อไป”
รางวัลเพื่อผู้ทำคุณประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ
