นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เตรียมมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในส่วนของกระทรวงการคลัง เข้าสู่ที่ประชุมครม. วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจากการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นว่ารัฐบาลควรมีมาตรการเพื่อดูแลอุปสงค์ด้านการท่องเที่ยว หรือวามต้องการท่องเที่ยว และอุปทานท่องเที่ยว เช่น ผู้ประกอบการที่ต้องการปรับปรุงโรงแรม สถานที่ให้บริการ ตรงนี้ควรส่งเสริม จะเกิดผลดีต่อการจ้างงาน โดยขอให้เสนอครม.ตามขั้นตอนก่อน หลังจากนั้นเมื่อสรุปชัดเจนจะพูดให้ทราบรายละเอียดต่อไป
นายอุตตม กล่าวต่อถึงข้อเสนอผู้เอกชนต้องการให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินว่า เป็นเรื่องเก่าเคยเสนอมาแล้ว แต่ขณะนี้มีปัจจัยใหม่ที่จะขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาเพิ่มเติม ขณะนี้กำลังพิจารณาขอให้รอก่อนว่าจะเข้าครม.หรือไม่ โดยอาจจะมีข้อเสนอต่อครม.ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ หรือไม่มีก็ได้ ขอให้รอดูยังไม่ขอพูดรายละเอียด ขอให้เข้าครม.เรียบร้อยก่อนจึงจะเปิดเผยรายละเอียดได้
นายอุตตม กล่าวต่อว่า สำหรับชิมช้อปใช้ 4 ยังไม่ได้กำหนดเสนอครม.อย่างไร ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาและหารือรูปแบบที่เหมาะสม และหากจะมีโครงการนี้ต่อ เนื่องจากต้องใช้มาตการนี้มาช่วยเหลือเศรษฐกิจไทยในประเทศ แม้ขณะนี้เศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะไทยมีปัญหาเรื่องหวัดโคโรนา และงบประมาณปี 2563 ล่าช้า จากเหตุดังกล่าวทำให้เห็นถึงความจำเป็นต้องมีรัฐมีมาตรการดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรจากภัยพิบัติ มาตรการส่งเสริมลงทุนให้ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรไปแล้ว
นายอุตตมกล่าวต่อว่า ชิมช้อปใช้ทั้ง 3 เฟส ปิดโครงการไปแล้วเมื่อวันที่ 31 มกราคม ถือว่าโครงการบรรลุวัตถุประสงค์ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา มีการใช้จ่ายเงินถึง 2.9 หมื่นล้านบาท โดย ชิมช้อปใช้ทำให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศ และเป็นการช่วยผู้ประกอบการ ซึ่งส่งผลดีกับการท่องเที่ยวด้วย ทำให้ประชาชน และผู้ประกอบการเกิดความมั่นใจ ว่ารัฐบาลมีมาตรการออกมาดูแล ซึ่งชิมช้อปใช้ทั้ง 3 เฟสทำให้รัฐบาลมีฐานตัวเลขผู้มาลงทะเบียนเกือบ 12 ล้านคน สามารถนำมาใช้ออกแบบมาตรการอย่างตรงจุดมากขึ้น
นายอุตตมกกล่าวถึงกรณีสำนักข่าว บลูมเบิร์ก ออกบทถึงเศรษฐกิจไทยว่าอาจเผชิญกับภาวะถดถอย จากไวรัสโคโรนาว่า เรื่องผลกระทบต่างๆ รัฐบาลติดตามอยู่แล้ว ส่วนการประเมินของสำนักต่างๆ เป็นเรื่องของแต่ละองค์กรที่จะประเมิน แต่ประเด็นสำคัญคือรัฐบาลต้องดำเนินการให้ทันการ ถึงช่องจังหวะที่คิดว่าจะมีมาตรการออกมาเราก็ออก ที่สำคัญขอความร่วมมือกับทุกภาค และหารือกันเพื่อช่วยดูแลเศรษฐกิจ กระทรวงการคลังหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หารือกับเอกชน เช่น ผู้ประกอบการและสถาบันการเงิน อันนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญ การประเมินเหตุการณ์ที่จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมีตลอด ไม่ได้วางใจ ไม่ประมาท
ส่วนในเรื่องฟรีวีซ่าจีน นายอุตตม กล่าวว่า คงต้องไปถามไถ่ผู้เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงท่องเที่ยวฯ
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า สำหรับมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในส่วนของกระทรวงการคลังเสนอครม.เช่น มาตรการไทยเที่ยวไทย ให้เอกชนนำรายจ่ายจากการจัดประชุมสัมมนาประเทศลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่า ส่วนเจ้าของ โรงแรม รีสอร์ท หากมีการปรับปรุงโรงแรม และสถานที่ให้ดีขึ้น สามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า นอกจากนี้คาดว่าจะขยายเวลาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปี 2562 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม ออกไป 3 เดือน คาดว่ามีเม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจ
