วันที่ 6 กุมภาพันธ์ กลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์ ได้เปิดตัว “Hatch Designer Hub” อาณาจักรผ้ายืดนวัตกรรมยุคใหม่ ใจกลางซอยวัดสนแหล่งค้าส่งผ้ายืดที่ใหญ่ที่สุดในไทย รวมถถึงเปิดพื้นที่ Knitted Fabric Co-designer Space ศูนย์รวมธุรกิจเสื้อผ้า ตั้งแต่ให้ความรู้เรื่องวัตถุดิบ การออกแบบแพทเทิร์น จนถึงการผลิตเพื่อจำหน่าย
เจาะตลาดดีไซเนอร์และผู้ประกอบการธุรกิจเสื้อผ้ารุ่นใหม่
ให้เข้าถึงผ้านวัตกรรมระดับโลก โดยไม่ต้องกังวลกับจำนวนขั้นต่ำในการผลิต พร้อมเปิดพื้นที่เป็น Knitted Fabric Co-designer Space จุดนัดพบ และศูนย์รวมระบบนิเวศน์ธุรกิจเสื้อผ้าตั้งแต่ให้ความรู้เรื่องวัตถุดิบ การออกแบบแพทเทิร์น จนถึงการผลิตเพื่อจำหน่าย
นายวิบูลย์ ตวงสิทธิสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) กลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์ กล่าวว่า การเปิด Hatch Designer Hub เพื่อเจาะตลาดดีไซเนอร์ที่ต้องการใช้วัตถุดิบคุณภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้า รวมถึงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ต้องการเติบโตในธุรกิจเสื้อผ้าให้สามารถเข้าถึงวัตถุดิบคุณภาพทัดเทียมกับแบรนด์ในต่างประเทศ กลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์ทำธุรกิจสิ่งทอและโซลูชั่นส์การผลิตเครื่องนุ่งห่มแบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากว่า 62 ปี ทำธุรกิจแบบผลิตตามสั่ง (made-to-order) ให้แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศหลายแบรนด์ อาทิ NIKE UNIQLO OAKLEY และ MUJI
“ด้วยนโยบายขององค์กรที่ต้องการให้ระบบนิเวศ(ecosystem) ของธุรกิจสิ่งทอและแฟชั่นในประเทศไทยเติบโตไปด้วยกัน และเห็นถึงความสามารถของคนไทยเจเนอเรชั่นใหม่ๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่แพ้ต่างประเทศเข้ามาประกอบธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นมากขึ้น จึงเปิด Hatch Designer Hub ขึ้น ถือเป็นอาณาจักรผ้ายืดนวัตกรรมยุคใหม่สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย และ Knitted Fabric Co-Designer Space แห่งแรกในไทย”
นายวิบูลย์ กล่าวว่า Hatch Designer Hub นอกจากจะเป็นศูนย์รวมผ้ายืดนวัตกรรมใหม่เช่นเดียวกับที่ซัพพลายให้แบรนด์ดังๆ ในต่างประเทศ มาให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้ใช้ โดยไม่ต้องกังวลกับจำนวนขั้นต่ำในการผลิต ยังตั้งเป้าให้เป็นศูนย์บริการด้านความรู้ (Knowledge Center) ตั้งแต่วัตถุดิบหรือผ้าแต่ละชนิด รูปแบบแพทเทิร์น จนถึงการตัดเย็บเพื่อจัดจำหน่าย โดยเฉพาะเรื่องวัตถุดิบที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการออกแบบและตัดเย็บ หากผู้ประกอบการใดที่สนใจจะเริ่มต้นทำธุรกิจแฟชั่น ต้องการพัฒนาศักยภาพแต่ขาดที่ปรึกษาก็สามารถเข้ามาพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญที่นี่ได้ด้วย
นายวิบูลย์ กล่าวว่า HATCH Designer Hub เปิดบริการมาแล้ว 11 เดือน ได้คัดสรรผ้านวัตกรรมเดียวกับที่จำหน่ายให้กับแบรนด์ดังต่างๆ นับ 1,000 รายการมาจำหน่ายในราคาเริ่มต้นกิโลกรัมละ 160 – 460 บาท ด้วยยอดสั่งซื้อขั้นต่ำ 3 กิโลกรัม พบว่าชนิดผ้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ Dry-Tech (ดราย-เทค) เพราะสวมใส่สบาย ระบายอากาศดี เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย และ Syntrel (ซินเทรล) จากไลฟ์สไตล์คนในปัจจุบันใส่ใจเรื่องสุขภาพ การออกกำลังกาย ทำให้เสื้อผ้า Sportswear เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยลูกค้า 80% เป็นลูกค้าที่เคยผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายอยู่แล้ว แต่ต้องการลองผ้าชนิดใหม่ที่มีนวัตกรรม ส่วนอีก 20% เป็นผู้ที่ต้องการเริ่มต้นสร้างแบรนด์ของตัวเอง
“HATCH Designer Hub ถูกตั้งเป้าให้เติบโตในเชิงคุณภาพ โดยเราต้องการใช้สถานที่แห่งนี้พัฒนาศักยภาพและสร้างผู้ประกอบการแฟชั่นรุ่นใหม่ให้สามารถแข่งขันในธุรกิจได้อย่างยั่งยืน สร้างโอกาสและเกิดการต่อยอดทางธุรกิจ โดยปีนี้ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการจะสร้างการรับรู้ในเชิงรุก ควบคู่ไปกับการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊คเป็นเครื่องมือสื่อสารสำคัญ เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ อาทิ การจัดเวิร์คช้อปให้ความรู้และได้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาผ้าผืนให้เป็นเสื้อผ้าแฟชั่น กระตุ้นให้เกิดการเข้ามาใช้พื้นที่เป็นแหล่งการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และรวมถึงการ Collaborate กับแบรนด์แฟชั่นชื่อดังและทรงอิทธิพลในกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง แฮมเบอร์เกอร์ สตูดิโอ (HAMBURGER STUDIO) และคิว ดีไซน์ แอนด์ เพลย์ (Q Design and Play) ออกคอลเลคชั่นพิเศษที่ผลิตจากผ้าของ HATCH ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่ได้อย่างแน่นอน” นายวิบูลย์ กล่าว
กลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์ ปัจจุบันมีโรงงานทั้งหมด 6 แห่ง ในไทย สปป.ลาว และเวียดนาม มีกำลังการผลิต 58 ล้านตัวต่อปี โดยบริษัทมุ่งเน้นให้ความสำคัญเรื่องนวัตกรรมของการสวมใส่จึงได้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมผ้าใหม่ๆ อยู่เสมอ
