สำรวจเมืองท่องเที่ยว พลิกแผนสู้พิษ ‘อู่ฮั่น’ ทัวร์จีนวูบ-ดึงฝรั่งเสียบ

สถานการณ์ปัจจุบันไทยกำลังประสบปัญหาด้านการท่องเที่ยวจากสถานการณ์ ไวรัสโคโรนา นักท่องเที่ยวลดส่งผลต่อรายได้ประเทศลดลง โรงแรมที่รับเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนมีการยกเลิกการจอง 100%

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 24 มกราคม-1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงกว่า 232,114 คน หรือลดลงราว 60.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย 383,112 คน ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นนั้น

หากสถานการณ์การแพร่ระบาดยุติลงภายในเดือนมีนาคมและนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเดินทางตามปกติในเดือนกรกฎาคมนี้ ประเทศไทยมีโอกาสสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวราว 3 แสนล้านบาท แต่ถ้าหากภายในเดือนมีนาคมทางการจีนยังไม่สามารถยุติการแพร่กระจายของโรคได้ ก็อาจจะมีความเสียหายมากกว่าตัวเลขที่ประเมินไว้

แต่ในข่าวร้ายก็ยังมีข่าวดีๆ เกิดขึ้น เพราะพบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวบางตลาดเพิ่มมากขึ้น อาทิ นักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรป เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการที่นักท่องเที่ยวเลือกเบนเข็มจากการท่องเที่ยวในประเทศจีนมาประเทศไทยแทน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปตลาดอื่นทดแทน อาทิ อินเดีย อาเซียน รวมถึงตลาดระยะไกล อาทิ ยุโรป ที่อาจจะไม่ได้เข้าไปทำตลาดในภาพรวมทุกประเทศเหมือนเดิม แต่จะเข้าไปกระตุ้นในตลาดที่มีศักยภาพมากขึ้น อาทิ รัสเซีย ยุโรปตะวันออกแทน

Advertisement

จากการลงไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ วรสิทธิ์ ผ่องคำพันธุ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่าเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทำให้ในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวเกาะสมุยลดหายไปกว่า 2.5 หมื่นคน และคาดว่าถึงเดือนพฤษภาคมจะมียอดลดลงไปอีก 5 หมื่นคนรายได้หายไปกว่า 200 ล้านบาท สำหรับนักท่องเที่ยวจีน แต่ก็ยังมีเรื่องดีๆ ที่มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางมาจาก 3 เมืองใหญ่ ด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำบินตรงมาลงที่สนามบินนานาชาติสุราษฎร์ธานี ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมีการจองห้องพักเฉลี่ย 12 วันต่อ 1 คน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาในช่วงนี้อัตรการจองก็ถือว่าพอๆ กัน นอกจากนี้ ยังมีการจองของนักท่องเที่ยวอินเดียและอิสราเอล เพิ่มขึ้นมา

“ทางสมาคมท่องเที่ยวเกาะสมุย มีแผนการเจาะตลาดไปที่สายการบินบินตรงทั้งจากเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกง เราต้องการทำตลาดให้บินตรงเข้ามาเกาะสมุยโดยไม่ต้องผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยถ้าจองตั๋วกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้ทำแพคเกจค่าเดินทางเหลือเพียง 1,990 บาท เดินทางหลังเดือนมีนาคม และจะได้ประสานไปยังสายการบินต่างๆ เพื่อลดราคาตั๋วด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะได้มีนักท่องเที่ยวมาเสริมเพื่อลดความเสียหายต่อผู้ประกอบการบนเกาะสมุย”

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

วรสิทธิ์ระบุว่า นอกจากนี้ ทางสมาคมท่องเที่ยวเกาะสมุยยังมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบการระยะสั้น เพื่อนำเสนอให้ภาครัฐพิจารณาในเรื่อง มาตรการขอชะลอภาษีท้องถิ่น 6 เดือน, ลดค่าน้ำค่าไฟ 3 เดือน, การชะลอการชำระเงินต้นของผู้ประกอบการการท่องเที่ยวในเกาะสมุย โดยชำระเพียงแค่ดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 1 ปี, สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เช่น งบประชารัฐ หรืออื่นๆ และพิจารณาขยายเวลาการชำระเงินค่าประกันสังคมสมทบของนายจ้างอย่างน้อย 3 เดือน

สำหรับ จ.เชียงใหม่ ด้วยกิจกรรมและสภาพอากาศที่ยังคงหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องแม้นักท่องเที่ยวชาวจีนจะลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งที่เห็นตามมาคือ นักท่องเที่ยวชาวยุโรปเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้งจากฝรั่งเศส อิตาลี สวีเดน โดยพบตามแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและในงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับซึ่งมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากนานาชาติ

น.ส.ภัคนันท์ วินิจชัย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวยุโรปเริ่มกลับเข้ามาแล้ว ซึ่งยังไม่มีตัวเลขชัดเจนมากนัก แต่การจะเดินทางเข้ามาต่อเนื่องนั้นยังไม่มีสัญญาณ เนื่องจากนับจากช่วงนี้ไป ไม่ใช่ช่วงที่เขาจะเดินทางท่องเที่ยวกัน แต่อยากให้ความมั่นใจว่าคนจีนรักเมืองไทยมากและเขาจะกลับมาอย่างแน่นอน

ดำรง องอาจ

ขณะที่ ดำรง องอาจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ส่วนใหญ่เดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวและมีไกด์นำทาง เราคงต้องทำตลาดเพื่อดึงกลุ่มยุโรปเข้ามาให้ได้ โดยการจัดกิจกรรมตามบุคลิกที่เขาชอบ เพราะเขาจะชอบเดินทางโดยรถไฟและรถยนต์ เพื่อเข้าไปยังชุมชนและเยี่ยมเยือนวิถีชีวิตของชาวบ้าน นอกเหนือจากวัฒนธรรมเก่าแก่ เราก็ต้องปรับโปรแกรมให้เข้ากับความต้องการให้มากขึ้นและจากนี้ไปเราต้องระวังหน้าระวังหลังให้ดี เพื่อไม่ให้สะเทือนหนัก

ขณะเดียวกัน ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต มองว่าจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด ที่เข้าภูเก็ตประมาณ 14 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณ 2.5-3 ล้านคน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 11 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 30 ต่อ 70 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งในส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนนั้น แน่นอนว่าหายไปเกือบหมด 30% โรงแรมในกลุ่มที่รับนักท่องเที่ยวจีนในลักษณะกรุ๊ปทัวร์ จึงกระทบค่อนข้างมาก แต่ในส่วนของโรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวแบบ FIT จึงยังพออยู่ได้ ทั้งนี้ จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งรวมทั้งยุโรป ตะวันออกกลาง รัสเซีย อินเดีย (70%) ยังเดินทางเข้ามาปกติ ไม่มีผลกระทบมากนัก

“ทั้งนี้ หากต้องการจะโปรโมตให้นักท่องเที่ยวในกลุ่มต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มยุโรปให้มีอัตราเพิ่มขึ้นในภูเก็ต เพื่อมาชดเชยในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่หายไปนั้น เห็นว่าทำได้แต่คาดว่าจะไม่ทันการณ์ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงปลายของไฮซีซั่น แต่ก็สามารถดึงนักท่องเที่ยวจากอินเดียมาเพิ่มได้ ทั้งนี้ โดยต้องให้ผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จัดตารางการบิน (Slot) เพิ่ม ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มนนักท่องเที่ยวมาชดเชยในส่วนที่ขาดไปได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ รัฐบาลควรมีแนวทางดำเนินการในส่วนอื่นๆ ที่ได้เคยเสนอ ทั้งเรื่องการลดอัตราภาษีต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการท่องเที่ยว” ภูมิกิตติ์กล่าว

ภูริต มาศวงศ์ศา

ด้าน ภูริต มาศวงศ์ศา ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมป่าตองรีสอร์ท และเป็นกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวเขตพื้นที่อันดามัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาพรวมการเข้าพักของนักท่องเที่ยวของโรงแรมป่าตองรีสอร์ท เฉลี่ยอยู่ที่ 75% ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวในกลุ่ม FIT มีทั้งกลุ่มประเทศยุโรป สแกนดิเนเวีย อิตาลี อังกฤษ ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และยังมีนักท่องเที่ยวชาวจีนบางส่วนที่ยังเข้าพัก ซึ่งนับว่าไม่กระทบมากนัก และจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการโรงแรมอื่นๆ ในพื้นที่ก็พบว่า โรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวในกลุ่ม FIT ด้วยกันก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 70-75% ด้วยเช่นกัน ส่วนที่หายไปคือกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่หายไปประมาณ 15-25% แต่ในส่วนของผู้ประกอบการโรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์จีนแบบ 100% นั้น ถูกยกเลิกห้องพักทั้งหมด ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ภูริตมองว่า ในส่วนของตลาดนักท่องเที่ยวจีนนั้น คาดว่าจะหายไปอย่างน้อย 6 เดือน หรือจนกว่าสถานการณ์โรคระบาดจะมีความชัดเจน ตนเองนั้นก็มีความคิดว่าผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวโดยการหากลุ่มเป้าหมายใหม่ในตลาดเดิม (ยุโรปและอื่นๆ) ที่ยังไม่ได้โฟกัส เช่น จากเดิมกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่กลุ่มคนวัยกลางคน ก็เพิ่มไปที่กลุ่มคนวัยหนุ่มสาว หรือกลุ่มคนวัยเกษียณหรือกลุ่มอื่นๆ โดยต้องเพิ่มโปรโมชั่น แพคเกจห้องพักต่างๆ ที่น่าสนใจเข้าไปพอสมควร เพื่อกระตุ้นให้มีการเดินทาง ซึ่งอาจจะสามารถชดเชยในส่วนที่หายไปได้บ้าง

ทั้งหมดถือเป็นการปรับตัวของผู้ประกอบการที่ไม่สยบยอมให้ธุรกิจตายไปพร้อมกับไวรัส แต่พลิกแผนสู้เพื่อความอยู่รอดของกิจการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image