ม.ค.63ตั้งรง.แผ่วลด 51.52% แต่ขยายกิจการเพิ่ม อีอีซียังร้อนแรง

ม.ค.63ตั้งรง.แผ่วลด 51.52% แต่ขยายกิจการเพิ่ม อีอีซียังร้อนแรง สศอ.มั่นใจลงทุนไทยดีขึ้น

รายงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.)ถึงตัวเลขขอใบอนุญาตประกอบกิจการ(ร.ง.4) และขยายกิจการเดือนมกราคม 2563 พบว่า มีจำนวนโรงงานทั้งสิ้น 313 โรงงาน ลดลง 13.29% จากช่วงเดียวกันในปี 2562 ขณะที่มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 2.53 หมื่นล้านบาท ลดลง 51.52% จำนวนนี้แบ่งเป็นการเปิดกิจการใหม่จำนวน 217 โรงงาน ลดลง 25.93% มูลค่าการลงทุน 1.03 หมื่นล้านบาท ลดลง65.20% ขณะที่การขยายกิจการมีจำนวน 96 โรงงาน เพิ่มขึ้น 41.17% ขณะที่มูลค่าการลงทุน 1.49 หมื่นล้านบาท ลดลง 33.18 % จากช่วงเดียวกันปี 2562 อยู่ที่ 2.23 หมื่นล้านบาท

“จำนวนโรงงานลดลงไม่มีนัยยะสำคัญอะไร เนื่องจากพ.ร.บ.โรงงาน 2562 เพิ่งบังคับใช้ปลายเดือนตุลาคม 2562 ซึ่งสาระหลักของพ.ร.บ.โรงงานที่มีขนาดเล็กมาก ต่ำกว่า 50 แรงม้า แรงงานไม่ถึง 50 คนไม่ต้องมาขอร.ง.4”

รายงานข่าวระบุว่า ทิศทางการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและพื้นที่อีอีซีเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่านักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นตอบรับนโยบายรัฐบาล โดยการลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย(เอสเคิร์ฟ)เดือนมกราคมมีการขอการขอใบอนุญาตประกอบกิจการ ร.ง.4 และขยายกิจการ จำนวน 98 โรงงาน เพิ่มขึ้น988.88 % มูลค่าการลงทุน 1.04 หมื่นล้านบาท ลดลง 21.21% โดย 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใหม่มีจำนวนเปิดกิจการใหม่และขยายกิจการที่มีมูลค่ามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อุตฯแปรรูปอาหาร อุตฯอิเล็กทรอนิกส์ อุตฯเกษตรเทคโนชีวภาพ อุตฯยานยนต์ อุตฯท่องเที่ยวสุขภาพ

Advertisement

ขณะที่การลงทุนในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) มีจำนวน 45 โรงงาน เพิ่มขึ้น25% มูลค่าการลงทุน 1.61 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 199.77 % แบ่งเป็น จ.ชลบุรี 24 โรงงาน มูลค่าการลงทุน 1.38 พันล้านบาท จ.ระยอง 16 โรงงาน มูลค่าการลงทุน 1.36 หมื่นล้านบาท และ จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 5 โรงงาน มูลค่าการลงทุน 1.14 พันล้านบาท

ส่วนการยื่นขอปิดกิจการ มีจำนวน 222 โรงงาน เพิ่มขึ้น 53.10 % มูลค่าการลงทุน 2.29 พันล้านบาท ลดลง8.4% คิดเป็นแรงงานจำนวน 2.51 พันคน ลดลง 31.04 % จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 3.64 พันคน ซึ่งการปิดกิจการไม่น่าเป็นห่วง ด้านรัฐบาลมีมาตรการดูแลแรงงานเหล่านี้เช่นกัน รวมถึงยังมีความต้องการแรงงานอีกจำนวนมากสังเกตได้จากยอดขอขยายโรงงานที่เพิ่มขึ้นในมกราคม 13.64 %

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

 

 

นายทองชัย ชวลิตเชษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) กล่าวว่า จากตัวเลขดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(เอ็มพีไอ) เดือนธันวาคม 2562 อยู่ที่ระดับ 99.02 หดตัว 4.35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 103.52 แต่ถือว่าปรับตัวดีขึ้น 2.13% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่หดตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.09% อยู่ที่ระดับ 96.95 จะเห็นได้ว่าภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากจีนและสหรัฐสามารถบรรลุยุติข้อตกลงทางการค้าร่วมกันได้เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้เชื่อว่าสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างทั้งสองประเทศมีทิศทางผ่อนคลายลงเป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกและไทยด้วย

“เชื่อมั่นว่าไทยยังเป็นประเทศเป้าหมายในการลงทุน เนื่องจากไทยมีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค สาธารณูปการ และยังมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่สามารถจูงใจนักลงทุนได้เป็นอย่างดี”นายทองชัยกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image