‘กสทช.’ เล็งทำเกณฑ์กลางคุมสื่อ ดีเดย์ 18 ก.พ. เรียก 3 ช่องแจงปมเสนอข่าวกราดยิงที่โคราช

พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลเพื่อกำหนดแนวทางการนำเสนอข่าวในสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่า จากการรายงานข่าวของสื่อต่างๆ ระหว่างเกิดเหตุการณ์กราดยิงที่นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า มีทีวีดิจิทัลบางช่องรายงานสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ รวมถึงกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน และอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้ จึงได้เชิญผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิทัลทุกช่องเข้าหารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ที่ชัดเจน

พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 จะเชิญผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่มีปัญหาเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง โดยตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ระบุว่า ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง โดยมีบทลงโทษตั้งแต่การตักเตือน ถัดมาคือการคำนวณค่าปรับ การพักใช้ใบอนุญาต จนถึงการเพิกถอนใบอนุญาต อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่มีปัญหา ยังไม่มีความผิด จึงอยู่ในขั้นการตักเตือน

“ขณะเดียวกันจะมีการจัดทำร่างวิธีการนำเสนอข่าวในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเป็นหลักเกณฑ์กลาง ในการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน โดยอาจจะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญ กรมสุขภาพจิต รวมถึงฝ่ายความมั่นคง เข้าแสดงความคิดเห็นต่อร่างวิธีการดังกล่าว จากนั้นจึงจะเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย ซึ่งคาดว่า 2-3 สัปดาห์หลังจากนี้จะได้ข้อสรุป” พล.ท.พีระพงษ์ กล่าว

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image