พนักงานเทอร์มินอล21 นอนไม่หลับ ภาพจ่าคลั่งกราดยิงฝังสมอง ดีใจห้างเร่งเปิด

พนักงานในเทอร์มินอล21 นอนไม่หลับ ภาพจ่าคลั่งกราดยิงฝังอยู่ในสมอง ดีใจห้างเร่งเปิดให้บริการได้อย่างรวดเร็ว เพราะจะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจพนักงานทุกคนและเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้ากลับคืนมาด้วย

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นายโอชา มุสิกสาร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 673 ซอย 13 สืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพนักงานขายของร้านนาฬิกาที่อยู่ในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์จ่าทหารกราดยิงประชาชนเมื่อวันที่ 8 และ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า เป็นช่วงที่เวลาที่ตนกำลังทำงานอยู่ที่ร้านซึ่งอยู่ชั้น 2 ของศูนย์การค้า แล้วได้ยินเสียงดังปังๆ คล้ายเสียงปืน จึงมองลงที่บริเวณชั้น 1 บริเวณหน้าศูนย์การค้า ก็เห็น รปภ.ประมาณ 5 คนเข้าไปเปิดประตูรถเอสยูวีสีขาวคันหนึ่งที่จอดอยู่ และมีคนถูกยิงนั่งจมกองเลือดอยู่ภายในรถ ตนและเพื่อนพนักงานขายก็เริ่มตื่นตระหนก พยายามมองหาที่มาของเสียงปืนว่ายิงมาจากทิศทางใดแต่มองไม่เห็น จึงเดินถ่ายวิดีโอจากกล้องโทรศัพท์มือถือจากมุมชั้น 2 ของศูนย์การค้า ซึ่งเห็น รปภ.ของห้างหลายคนก้มหลบวิถีกระสุนปืน และเห็นคนถูกยิงล้มข้างรถจักรยานยนต์ที่ถนนทางเข้าศูนย์การค้าด้วย จึงคุยกับเพื่อนพนักงานว่ามีเหตุยิงกัน มีคนถูกยิงหลายราย แต่บางคนคิดว่าเป็นการซ้อมแผน ซึ่งตนบอกว่าไม่น่าจะใช่ จากนั้นก็รีบโทรบอกลูกและครอบครัว อย่าให้ผ่านมาแถวศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 เพราะกลัวจะโดนลูกหลง

จากนั้นตนก็สังเกตเห็นว่า ภายในศูนย์การค้าคนเริ่มแตกตื่น วิ่งหนีตายกัน ตนจึงตัดสินใจวิ่งไปที่ลานจอดรถด้านหลังของศูนย์การค้า เพื่อออกไปจากตัวศูนย์การค้าให้ได้ แต่ได้ยินเสียงคนร้ายยิงถังแก๊สระเบิด ตนจึงย้อนกลับวิ่งไปหลบซ่อนที่ชั้น 4 ร้านของเล่น หลบซ่อนอยู่ด้านหลังของร้านกับพนักงานร้านอีก 3 คน จนมี รปภ.มาเคาะเรียกประมาณ 22.00 น.เพื่อช่วยพาออกไปนอกศูนย์การค้า ทางลานจอดรถโซน B แล้ววิ่งหนีตายออกไปซอยตรอกจันทร์ ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ ขณะหลบซ่อนพยายามคิดตลอดเวลาว่าจะทำอย่างไรให้สามารถรอดพ้นวิถีกระสุน อธิษฐานนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อคูณ คุณย่าโม สวดมนต์ภาวนาขอให้รอดชีวิตกลับไป และพยายามสื่อสารบอกทางบ้านว่าอย่ามาใกล้จุดที่มีการกราดยิง

หลังเกิดเหตุการณ์ ตนยังรู้สึกสลดใจ นอนไม่หลับ ยังจำภาพฝังอยู่ในสมอง แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อ เป็นกำลังใจให้พนักงานทุกคน และผู้สูญเสียทุกคน เพราะบางคนเราก็รู้จัก ทำงานอยู่ในศูนย์การค้าแห่งนี้เหมือนกันตั้งแต่เปิดศูนย์การค้า ซึ่งคิดว่าคงจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก ส่วนกรณีที่ทางศูนย์การค้าจะเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ ตนมองว่าแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นไม่นาน แต่ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้ฟื้นฟูสภาพจิตใจพนักงานทุกคนจะได้มีกำลังใจ อีกทั้งเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้ากลับคืนมาด้วย เพราะถ้ายิ่งเปิดช้า ความเชื่อถือเชื่อมั่นของประชาชนก็จะยิ่งลดน้อยลง จึงขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ ฝ่าย

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image