09.00 INDEX ชัยชนะ พ่ายแพ้ การยุบพรรค การดำรงอยู่ของ พรรคมวลชน
ไม่ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญ กำลังประสบกับอีกสถานการณ์ที่ไม่เคยประสบมาก่อน เมื่อชงและจะเสนอคำวินิจฉัยต่อพรรคอนาคตใหม่
ไม่ว่าจะเป็นกระแสคัดค้าน ต่อต้าน จากขบวนการที่นำโดย นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ
ไม่ว่าจะเป็นกระแสคัดค้าน ต่อต้านจากพรรคอนาคตใหม่
ความจริงกระแสอันมาจากขบวนการที่นำโดย นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ หรือแม้กระทั่งปฏิกิริยาและคำขู่อันมาจากศูนย์ประสานงาน พรรคอนาคตใหม่
เป็นเรื่องปรกติ เป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทางการเมือง
เพียงแต่กระแสและปฏิกิริยาครั้งนี้ทวีความรุนแรง กว้างขวาง
หากมองผ่านกระบวนการอันผลักดันโดย นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ ด้านหลักอาจเป็นปัญญาชน อาจเป็นนักพัฒนาเอกชน แต่ที่น่าสนใจ ยิ่งกว่ากลับเป็นคนรุ่นใหม่
เป็นคนรุ่นใหม่ในแวดวงธุรกิจ เป็นคนรุ่นใหม่ในแวดวงทางปัญญา และเป็นคนรุ่นใหม่ในแวดวงบันเทิง
ขณะเดียวกัน หากมองผ่านการเคลื่อนไหวของศูนย์ประสานงาน พรรคอนาคตใหม่ อาจเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะผลักดันและกดดันจากคณะกรรมการบริหารพรรคในส่วนกลาง
แต่คำถามที่ไม่ว่ากกต. ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญ สมควรให้ความสนใจอย่างเป็นพิเศษก็คือ นี่เป็นการเคลื่อนไหวผ่านกระบวนการของพรรค สะท้อนให้เห็นโครงสร้างและการจำหลักอย่างหนักแน่นของพรรคในแต่ละพื้นที่
ตรงนี้ยืนยันลักษณะความเป็น ”มวลชน” ของพรรคอนาคตใหม่
ไม่ว่าในที่สุดคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร ก็ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงหรือต่อต้านได้ในทางเป็นจริง
เพียงแต่ กกต.อาจได้รับ ”ปฏิกิริยา” รุนแรงกว่าปรกติ
ปฏิกิริยานี้จะเป็นเหมือนสัญญาณสะท้อนให้เห็นพัฒนาการในทางการเมืองอีกก้าวใหญ่ ก้าวสำคัญ
เป็นสัญญาณว่า ”พรรคมวลชน” ได้สถาปนาขึ้นแล้วในสังคมไทย
เท่ากับเป็นการยืนยันว่า ไม่ว่าการยุบพรรคอนาคตใหม่จะเกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง ตามข้อเสนอและกติกาของ กกต. แต่พรรคอนาคตใหม่ก็ยังอยู่
อยู่บนฐาน ”มวลชน” อยู่บนความรู้สึกร่วมของ ”มวลชน”