หุ้นไทยปิดบวก 3.85 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,495.09 จุด ดีดตัวขึ้นจากความผ่อนคลายทางการเมือง

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบสลับบวก โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,491.24 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,481.78 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,495.09 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.85 จุด หรือ 0.26% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,495.17 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,476.89 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 56,100.31 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,546.49 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 97.58 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,776.87 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 1,132.81 ล้านบาท โดยระหว่างวันดัชนีทำจุดต่ำลบกว่า 14.35 จุด และทำจุดสูงสุด บวก 3.93 จุด

โดยนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงในภาคเช้า ก่อนจะกลับมาปิดตลาดบวกได้ สาเหตุมาจากความกังวลของภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ทำให้ช่วงเช้าดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบ ส่วนภาคบ่ายมีเรื่องสำคัญคือ การที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมีแรงกดดันตลาดหุ้นไทยออกมาเล็กน้อยในช่วงสั้นๆ ก่อนจะดีดตัวขึ้นมาในแดนบวกได้ เนื่องจากมองว่าตลาดอาจตีความในเรื่องการที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปแล้ว ช่วยคลายความกดดันในเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล ที่อาจจะมีเพิ่มมาดขึ้น รวมถึงในสัปดาห์หน้าที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งผู้นำในพรรคอนาคตใหม่หลายคน ก็เป็นตัวเด่นในการส่งเรื่องซักฟอกด้วย จึงอาจทำให้ความรุนแรงในการอภิปรายดังกล่าวลดลงได้

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังให้น้ำหนักลบค่อนข้างมากในด้านเศรษฐกิจ แม้จะประเมินผลกระทบและความเสียหายได้ค่อนข้างยาก แต่เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อประมาณการผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทยแน่นอน แม่ขณะนี้สัญญาณภาพรวมในผู้ป่วยใหม่ที่เกิดขึ้นมีน้อยเหลือประมาณ 500 รายต่อวัน สวนทางกับผู้ป่วยเก่าที่หาย และสามารถกลับบ้านได้แล้ว ประมาณ 2,000 รายต่อวัน แต่ความกังวลก็ยังไม่ได้ลดลงนายวิจิตรกล่าว

นายวิจิตรกล่าวว่า ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์ถัดไป หลักๆ เป็นเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจของรัฐบาล ที่คาดว่าอาจจะสามารถสนับสนุนให้ดัชนีปรับตัวกลับขึ้นมาได้ เนื่องจากแรงกดดันในส่วนของฝ่ายซักฟอกมีลดลง รวมถึงในสัปดาห์นี้ดัชนีหุ้นไทยปรับระดับลดลงค่อนข้างลึก จึงเชื่อว่ามีโอกาสที่จะเห็นดัชนีดีดตัวขึ้นได้ สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวให้ไว้ที่ระดับ 1,480 – 1,520 จุด ในส่วนของกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ เลือกลงทุนในหุ้นรายตัว โดยแนะนำเป็นหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ จีพีเอสซี และหุ้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงค์จากแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วอาทิ ทียู ซึ่งได้ประโยชน์ทั้งจากค่าเงินบาทอ่อน และโมเมนตัมของผลกำไรไตรมาส 1/2563 ที่ครดว่าจะสามารถกลับขึ้นมาดีได้ รวมถึงหุ้นปลอดภัย อาทิ แอดวานซ์

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image