“อนุสรณ์”ชี้ยุบพรรค อนค.สร้างวิกฤตการเมืองฉุดศก.ย่ำแย่ลงไปอีก-ลุ้นฟื้นตัวปลายไตรมาส 3

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลกระทบสะสมของการส่งออก การท่องเที่ยวหดตัวจะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตลดลงอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้ การเลิกจ้าง ลดชั่วโมงการทำงาน หรือ การลดขนาดองค์กร ชะลอการลงทุนได้เกิดขึ้นในหลายกิจการและธุรกิจอุตสาหกรรม และภาวะดังกล่าวจะดำรงอยู่ โดยสถานการณ์จะไม่ดีขึ้นไปจนถึงอย่างน้อยปลายไตรมาส3 หลังไตรมาส3 แล้ว เศรษฐกิจอาจจะกระเตื้องขึ้นได้บ้าง หากภาคการลงทุนฟื้นตัวขึ้นมาได้ และ ปัจจัยลบภายนอกคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า สุขภาพทางการการเงินของครัวเรือนและภาคธุรกิจอุตสาหกรรมยังคงปรับตัวแย่ลงในหลายด้าน การจ้างงานโดยรวมปลายปีที่แล้วยังคงติดลบ 1.5-2% แต่อัตราการว่างงานยังอยู่ต่ำกว่า 1.5% โดยอัตราการว่างงานอาจเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบหลายปีในกลางปีนี้ สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีอยู่ในระดับสูง 78.9% อัตราการเติบโตของรายได้ของภาคครัวเรือนทั้งในภาคเกษตรและนอกภาคเกษตรโดยรวมยังคงอยู่ในระดับต่ำ ในหลายกิจการรายได้หดตัวลงอย่างชัดเจน สินเชื่อส่วนบุคคลเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในภาคธุรกิจที่เร่งตัวขึ้นอย่างมากตั้งแต่ไตรมาสสี่ปีที่แล้ว โดยเฉพาะเอสเอ็มอีกลุ่มท่องเที่ยว ค้าปลีก สินค้าเกษตรส่งออก เป็นต้น

 

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า มีความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาสแรกปีนี้อาจขยายตัวติดลบจากปัจจัยลบรุมเร้าจากต่างประเทศ ขณะที่ ปัจจัยภายในประเทศเองก็เจอกับภัยแล้ง ฝุ่น PM2.5 ความล่าช้าของงบประมาณปี 2563 และผลกระทบจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ การยุบพรรคอนาคตใหม่เป็นภาพสะท้อนของปัญหาที่ใหญ่กว่า คือ ปัญหารัฐธรรมนูญและการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งระบบยุติธรรมผ่านองค์กรอิสระที่อาจทำหน้าที่ได้อย่างไม่เป็นอิสระและไม่ตรงไปตรงมา การที่ประเทศไม่มี Rule of Law หรือดูเหมือนไม่มี Rule of Law จะซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจซึ่งขยายตัวต่ำอยู่แล้วให้ย่ำแย่ลงไปอีก

Advertisement

“กรณีการยุบพรรคอนาคตใหม่จะนำมาสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมากโดยเฉพาะส่งผลกระทบต่อภาคการลงทุน การเอาสิทธิประโยชน์มากมาย การลดหย่อนภาษี การให้เช่าที่ดิน 99 ปีไปแลกเปลี่ยนกับการลงทุนจากต่างชาติ จะไม่ได้ผลเท่ากับการทำให้ประเทศนี้ปกครองโดยกฎหมายและยึดระบบนิติธรรมที่เป็นมาตรฐานสากล มีความโปร่งใสและความคงเส้นคงวาของนโยบายสาธารณะ ปลอดจากการทุจริตคอร์รัปชัน  นิติรัฐไม่ใช่เพียงการปกครองโดยกฎหมายในทางรูปแบบเท่านั้น แต่ต้องโดยเนื้อหาของกฎหมาย หมายความว่า เมื่อมีกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมายจะมีเนื้อหาอย่างไรก็ได้ หากเนื้อหาของกฎหมายขัดกับหลักพื้นฐานของความยุติธรรม และเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่นักลงทุนยอมรับ”นายอนุสรณ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image