เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่โรงแรมเวย์ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีการสัมมนาวิปรัฐบาลเป็นวันสุดท้าย เพื่อรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี โดยมีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เป็นประธาน
นายวิรัช กล่าวว่า การประชุมวิปรัฐบาลที่มีตัวแทนจากทุกพรรคร่วมรัฐบาล ตลอดทั้งสองวัน เป็นการเตรียมรูปแบบและความพร้อม ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ โดยเชิญรัฐมนตรีทั้ง 5 คน ที่ถูกอภิปรายมาร่วมรับฟังด้วย และได้ข้อสรุปไปหลายเรื่อง แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลของแต่ละพรรคที่ร่วมประชุม ซักถามในประเด็นที่คาดการณ์ว่ารัฐมนตรีแต่ละคนจะถูกอภิปราย ถือว่าได้สาระสำคัญ แต่บางอย่างยังไม่ขอชี้แจงเนื่องจากเป็นการคาดการณ์เพียงแต่เตรียมการเอาไว้ ทั้งคำชี้แจง สไลด์ สื่อข้อมูลประกอบการชี้แจง เพื่อให้การอธิบายสมบูรณ์ที่สุด และตามข้อบังคับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี จะเป็นผู้ตอบการชี้แจงเว้นแต่จะมีการพาดพิงไปถึงรัฐมนตรีคนอื่นที่รับผิดชอบ ก็จะลุกขึ้นมาตอบและชี้แจงได้ และการประชุมครั้งนี้จะสรุปขั้นตอนและวิธีการก่อนที่จะประชุมร่วมกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้งกรอบเวลา การกำหนดเวลาอภิปราย ในแต่ละวัน การตอบคำชี้แจงจะเป็นไปในลักษณะแบบใด เช่น อาจจะรวมผู้อภิอภิปราย 2-3 คน แล้วตอบคนเดียวหรืออภิปรายให้จบหนึ่งคน แล้วชี้แจงทันที ซึ่งก็ต้องพิจารณาในแต่ละหัวข้อ หารือกับวิปรัฐบาล จากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปจะประชุมวิปรัฐบาล เพื่อนำข้อหารือทั้งหมดเข้าหารือในที่ประชุมผิดรัฐบาลเพื่อเป็นมติแจ้งไปทุกพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด 18 พรรค ให้ดำเนินการตามมติวิปรัฐบาล
ทั้งนี้ยืนยันว่าต้องสนับสนุนรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย หากฝ่ายค้านจะอภิปรายย้อนหลังไป 20 เปอร์เซ็นต์ ก็พอจะรับได้ แต่ถ้าย้อนไปถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์ คงต้องสอบถามว่าถ้าจะอธิบายเรื่องอื่น ต้องเปลี่ยนจะญัตติใหม่ เพราะเราอยากให้อธิบายเรื่องที่เกิดนับตั้งแต่วันที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกฯ และอาจจะต้องปรึกษาถามประธานสภาฯว่า ถ้ามีการอภิปรายย้อนอดีตจะต้องทำอย่างไรหากรัฐบาลจะขออธิบายย้อนหลังกลับไปบ้าง ก็จะกลายเป็นปัญหาขึ้นอีก ขอให้พูดเรื่องปัจจุบันจะดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงโหวตสนับสนุนถูกอภิปราย นายวิรัช กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับมติวิป แต่ส่วนมากจะเป็นห่วงเรื่องข้อบังคับการประชุม การดำเนินการประชุม ซึ่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์กำชับให้ทุกพรรคต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และขอให้คะแนนออกมาเท่ากันทุกคน และดูตามข้อกล่าวหาคนที่ถูกอภิปรายจะเป็นข้อความที่ซ้ำกันและอาจไปเกี่ยวข้องกับเรื่องในอดีตมากกว่าปัจจุบัน ยกเว้นร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ตั้งครม.ในส่วนของพรรคเล็กคงไม่มีอะไรก็คงจะมีการพูดคุยต่อไป
“เป็นห่วงรัฐมนตรีทุกคนเท่ากัน ไม่มีใครเป็นพิเศษ เพราะตอนที่คาดการณ์ว่าคนนี้จะโดนหนักแต่พอถึงเวลาอาจจะไม่มีอะไรประเด็นคือต้องเตรียมการข้อมูลเอาไว้ แต่อาจจะดูนายกรัฐมนตรี มากกว่าเนื่องจากข้อกล่าวหามีมากถึง 28 บรรทัด 40 ข้อ ในขณะที่รัฐมนตรี 5 คนร่วมกันมี 28 บรรทัด ถึงแม้นายกรัฐมนตรี จะไม่ได้มาแต่ก็ทราบและเตรียมการในข้อที่ถูกกล่าวหาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และให้รอดูลุกค์ใหม่ของนายกรัฐมนตรีในการตอบคำถาม ถ้าเรื่องใดตอบได้เองและมีหลักฐานครบก็คงตอบเอง ถ้าคาบเกี่ยวกับกระทรวงการคลังก็ต้องมอบรัฐมนตรีเป็นผู้อภิปรายชี้แจงแทน”นายวิรัชกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
