ACE โชว์กำไรงาม เติบโตเฉียด 50% ปีนี้รุกหนัก พร้อมประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน-ขยะ 1,100 เมกะวัตต์

นางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2562 ว่าดีขึ้นต่อเนื่อง มีรายได้รวม 4,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากรายได้รวม 4,833 ล้านบาท เทียบปี 2561 โดยมี EBITDA 1,854 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.9% จาก EBITDA 1,586 ล้านบาท ในปี 2561 และมีกำไรสุทธิ 816 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.2% จากกำไรสุทธิ 547 ล้านบาท ในปี 2561 ทำให้อัตรากำไรสุทธิในปี 2562 สูงถึง 16.4% โดยในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ACE มีผลกำไรที่ดี จากการลดค่าใช้จ่ายในการดูแลซ่อมบำรุง และลดค่าใช้จ่ายวัตถุดิบได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งโรงไฟฟ้า MSW ดำเนินการได้เต็มไตรมาส หลังจากมีปิดซ่อมบำรุง 10 วัน ในไตรมาส 3

สำหรับปีนี้ นางสาวจิรฐากล่าวว่า บริษัทมีแผนงานจะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเตรียมเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนตามนโยบายสำคัญของภาครัฐ 2 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ โดยเฉพาะโครงการ Quick – Win ซึ่งเป็นเฟสแรกของโครงการที่คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อน และสามารถรับรู้รายได้ได้อย่างรวดเร็ว และโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ รวมแล้ว 1,100 เมกะวัตต์ มั่นใจว่ามีโอกาสชนะการประมูลจากความพร้อมของบริษัทในทุกด้าน ช่วยสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างมั่นคง

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid จำนวน 4 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้ง 93 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการขอขยายเวลาการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า นางสาวจิรฐาคาดว่าจะได้รับการอนุมัติภายในไตรมาส 1 นี้

นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ACE มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วกำลังการผลิตติดตั้งรวม 212.18 เมกะวัตต์ และมีเป้าหมายระยะยาวจะเพิ่มกำลังการผลิต ติดตั้งรวมมากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567 จากโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โครงการที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนา และโครงการในอนาคต ทั้งโรงไฟฟ้าชุมชนและโรงไฟฟ้าขยะ อันจะส่งผลให้ ACE เติบโตอย่างก้าวกระโดดและต่อเนื่องในช่วง 5 ปีนี้

Advertisement

สำหรับปี 2563 บริษัทมีกลยุทธ์สร้างผลประกอบการให้เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรโดยบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยล่าสุดบริษัทฯสามารถลดค่าใช้จ่ายทางการเงินกว่า 200 ล้านบาทต่อปี โดยการชำระคืนหุ้นกู้ก่อนกำหนดจำนวน 1,450 ล้านบาท และบริษัทยังสามารถลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวในอัตรากว่า 1.5% กับสถาบันการเงินชั้นนำ ซึ่งจะมีผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในปีนี้และปีต่อไปอย่างมีนัยยะ และทำให้บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ล่าสุดบริษัทมีอัตราส่วนทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีอัตรากำไรขั้นต้น 32.8% และอัตรากำไรสุทธิ 16.4% และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) เพียง 0.28 ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการลงทุนขยายกิจการเพิ่มเติมได้อย่างมาก

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image