นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท. ได้ประเมินผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบว่า เบื้องต้นจะกระทบต่อตัวเลขการส่งออกของไทยในไตรมาสแรกของปี 2563 อย่างชัดเจนแต่ไม่มากนัก เนื่องจากสถานการณ์การส่งออกในเดือนมกราคมที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่พอไปได้ แต่ขณะที่เดือนกุมภาพันธ์สถานการณ์น่าจะหนักที่สุด ส่วนเดือนมีนาคมคาดว่าจะมีสินค้าบางรายการที่เริ่มกลับมาขยับได้บ้าง
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สรท. ประเมินว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะกระทบต่อตัวเลขการส่งออกของไทยอย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2563 และจากนั้นหากแต่ละประเทศมีความชัดเจนในการป้องกัน หรือมีวัคซีนสำหรับป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่ชัดเจน เชื่อว่าสถานการณ์การส่งออกจะเริ่มกลับมาดีขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้จะดีหรือไม่ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คือตัวแปลที่สำคัญ ขณะที่ ปัจจัยด้านสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (เทรดวอร์) ภาคการส่งออกมีการเตรียมความพร้อมในการรับมือพอสมควร
“สรท.ยังคงคาดการณ์การส่งออกไทยปี 2563 จะเติบโตได้ 0-1% ซึ่งจะชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ในงานแถลงข่าวสถานการณ์การส่งออกเดือนมกราคม ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ในวันที่ 3 มีนาคม 2563” นายวิศิษฐ์ กล่าว
ว่าที่ ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ รองประธานหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง หอการค้าไทย กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของไทยอย่างมาก โดยเฉพาะที่ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวมาช่วยหล่อเลี้ยงประเทศ ซึ่งเมื่อการแพร่ระบาดของไวรัสถึงจุดสูงสุดเมื่อใด จากนั้นจะมีแนวโน้มลดลงได้ แต่ขณะที่ปัจจุบันสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น อีกทั้งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแม้ในอัตราที่ลดลง แต่มีการขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น ซึ่งการขยายเป็นวงกว้างนี้เกิดจากระบบการคมนาคมที่สะดวกรวดเร็วขึ้น ต่างจากผลกระทบจากโรคซาร์ส เมื่อ 17 ปีก่อน
ว่าที่ ร.อ.จิตร์ กล่าวว่า ถือได้ว่าประเทศไทยมีมาตราการในการรับมือกับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสได้ดีในระดับหนึ่ง แต่หากเกิดอะไรขึ้นในอนาคตขอให้กระทรวงสาธารณสุขบอกความจริงกับประชาชนโดยไม่ใช่ปิดบัง ซึ่งการปิดบังหากประชาชนมารู้ทีหลังศรัทธาจะไม่เหลืออยู่เลย โดยเฉพาะภาวะการเมืองที่ไม่มั่นคง ช่วงนี้จึงอยากเห็นความสามัคคี ร่วมไม้ร่วมมือกันจากทุกฝ่ายในการแก้ปัญหานี้ให้ผ่านพ้นไปได้
“ฝากไปยังรัฐบาล โดยอ้างอิงจากปรัชญาจีนระบุว่า หลักการบริหารประเทศต้องประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ 1.ปากท้องประชาชน 2.ทหารหรือความมั่นคง และ 3.ความศรัทธา ซึ่งหากขาดส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือขาดเกินครึ่งหนึ่ง ผู้ปกครองจะลำบาก ฉะนั้น ภายใต้วิกฤตต่างๆ นี้จึงเป็นช่วงที่ทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้านต้องสร้างศรัทธาแข่งกัน อีกทั้ง ยังมีการเปรียบเปรยว่า ประเทศก็เหมือนเรือ ซึ่งเรือในที่นี้ก็คือรัฐบาล และน้ำคือประชาชน ซึ่งน้ำช่วยให้เรือลอยได้ แต่ขณะเดียวกันน้ำก็ทำให้เรือคว่ำได้ จึงอยากให้รัฐบาลตระหนัก และใส่ใจในเรื่องปากท้องของประชาชน เร่งขับเคลื่อนประเทศไปสู่ทิศทางที่ดี” ว่าที่ ร.อ.จิตร์ กล่าว