‘ชินวรณ์’ ยันวิป รบ.ไม่ได้ห้าม ส.ส.ลงชื่อเปิดสมัยวิสามัญพิจารณาข้อเรียกร้อง น.ศ. ชี้ต้องเข้าชื่อ 1 ใน 3 ของ 2 สภา
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาล กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้มีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษานั้นว่า การเปิดประชุมสมัยวิสามัญจะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 123 ที่ต้องมี ส.ส.และ ส.ว.ทั้งสองสภา เข้าชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือจำนวน 250 คน หรือ ส.ส.เข้าชื่อรวมกัน 1 ใน 3 ของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งถือว่าเป็นเสียงข้างมากในการมีความเห็นว่าจะต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญหรือไม่ และข้อเรียกร้องในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ก็อยู่ในช่วงรับฟังความคิดเห็นกันอยู่ว่าสมควรที่จะเปิดสมัยประชุมหรือไม่ แต่มีบางคนบางพรรคแสดงความคิดเห็น ก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่สามารถทำได้ แต่จะให้เปิดสมัยประชุมวิสามัญจริงๆ ก็น่าจะต้องเป็นความเห็นร่วมกันของ ส.ส.และของรัฐบาลด้วย เพราะจะต้องเป็นเรื่องที่มีสาระสำคัญที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมือง ซึ่งขณะนี้วิปรัฐบาลยังไม่ได้ประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ แต่เป็นดำริของ ส.ส. 2-3 คนเท่านั้น
เมื่อถามว่า นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า วิปรัฐบาลสั่งห้ามไม่ให้ ส.ส.ร่วมลงชื่อในญัตติขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายชินวรณ์กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการสั่งห้ามอะไร แต่เพราะมีการเคลื่อนไหวให้ลงชื่อ และ ส.ส.แต่ละคนอาจจะไม่ทราบข่าวก็ได้ จึงไม่อยากให้ลงชื่อ เพราะหากจะเปิดวิสามัญ รัฐบาลต้องให้เป็นการทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองจริงๆ ส่วนการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญก็มีหลายช่องทางที่สามารถฟังความคิดเห็นได้ เช่น คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 สภาผู้แทนราษฎร หรือรัฐบาลก็สามารถเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านส่วนราชการต่างๆ ได้ ทั้งนี้ การรับฟังความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ควรจะเปิดสภาสมัยวิสามัญหรือไม่ก็ต้องดูว่าช่วงนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม ดังนั้น การเปิดสมัยวิสามัญก็ต้องมีความชัดเจนพอสมควร แต่เรื่องเกี่ยวกับการบริหารราชการ บางเรื่องรัฐบาลก็ดำเนินการอยู่
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
