เมื่อวันที่ 8 มีนาคม แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมว่า เมื่อเร็วๆ นี้กรมเจ้าท่ามีหนังสือเชิญให้ที่ปรึกษายื่นข้อเสนองานจ้างที่ปรึกษาสำรวจจัดทำแผนที่และรายละเอียดของสิ่งล่วงล้ำลำน้ำบริเวณชายฝั่ง ทะเลสาบและแม่น้ำภายในประเทศ โดยกำหนดราคากลางไว้ที่ 349 ล้านบาทด้วยวิธีคัดเลือกจากเอกชนที่สนใจเข้าประกวดราคา
“โครงการดังกล่าวมีผู้ร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใสในข้อกำหนดของงาน (ทีโออาร์) บางข้อ เช่น งานสำรวจบินถ่ายภาพทางอากาศที่ไม่ให้ใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ทั้งๆ ที่ปัจจุบันมีการใช้โดรนในงานสำรวจอย่างแพร่หลาย มีเอกชนหลายรายที่มีผลงานการสำรวจด้วยโดรนเป็นที่ประจักษ์ แม้ในทีโออาร์ไม่ระบุว่าห้ามใช้โดรน แต่กำหนดว่าให้การถ่ายภาพทางอากาศต้องมีผู้ควบคุมการถ่ายอยู่บนอากาศยานนั้น ซึ่งเครื่องบินสามารถบินถ่ายภาพในลักษณะดังกล่าวได้นั้นเบื้องต้นมีอยู่ 4 เครื่อง ซึ่ง 3 ลำเป็นของเอกชนรายหนึ่ง ส่วนอีก 1 เครื่องเป็นของกรมแผนที่ทหาร”แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่างว่า นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของงานสแกนภาพถ่ายทางอากาศที่มีอยู่เดิมเพื่อเปรียบเทียบกับภาพถ่ายทางอากาศที่บินสำรวจใหม่ ซึ่งงานสแกนภาพถ่ายทางอากาศนี้ ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่ก็ยังเอื้อให้กับที่ปรึกษาบางรายอยู่ดี โดยกำหนดให้ใช้ Photogrammetric Scanner ที่มีคุณสมบัติเฉพาะ ทั้งที่ ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องที่มีคุณสมบัติสูงขนาดนี้ เรื่องนี้คนในวงการแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศรู้กันดีว่าผู้ที่ครอบครองเครื่องที่ว่านี้คือใคร
แหล่งข่าวกล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีคัดเลือก เนื่องจากเนื้องานคือการสำรวจ จัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ จัดทำฐานข้อมูลและบันทึกข้อมูลบนระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ซึ่งต้องการผู้ที่มีความรู้ มีประสบการณ์ และผู้เชี่ยวชาญในหลายๆ สาขา จึงต้องเชิญที่ปรึกษาที่มีคุณสมบัติเหมาะสมให้ยื่นข้อเสนอเพื่อรับการคัดเลือก ไม่สามารถเปิดประมูลเป็นการทั่วไปได้ ที่ปรึกษาไทยหลายรายมีความรู้ มีประสบการณ์ และมีผู้เชี่ยวชาญเพียงพอ แต่อาจไม่มีโอกาสได้ทำโครงการนี้เพราะกรมเจ้าท่าไม่ให้ใช้โดรนและที่ปรึกษาทั่วไปไม่มีเครื่องสแกนฟิล์มที่มีคุณสมบัติตามทีโออาร์
“ทั้งนี้ พื้นที่บริเวณชายฝั่ง ชายหาด ริมแม่น้ำ มีมูลค่าสูง ผู้ที่รุกล้ำอาจไม่อยากให้มีการเปลี่ยนผู้สำรวจสิ่งล่วงล้ำลำน้ำให้เป็นรายใหม่ก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องนี้เอกชนผู้ที่ซื้อซองเพื่อประกวดราคาในโครงการนี้หลายราย เตรียมยื่นหนังสือต่อนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมที่กำกับดูแลกรมเจ้าท่า ให้เข้ามาตรวจสอบว่ามีการล็อกสเปกเอื้อเอกชนบางรายหรือไม่” แหล่งข่าวกล่าว
