‘ถาวร’ จี้ ผอ.ท่าอากาศยานนครศรีฯ สะสางงานเก่า เร่งงานใหม่ พอใจเฉพาะงานก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่คือกว่าแผนงานที่กำหนดไว้
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้างานพัฒนาสนามบินนครศรีธรรมราช ทั้งงานค้างเก่า และงานก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ วงเงิน 1,458 ล้านบาทเศษ โดยต้องเสร็จตามกำหนดเวลา มีนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายถาวร แสงอำไพ ผู้อำนวยการท่าอาศยานนครศรีธรรมราช ได้นำตรวจและรายงานความคืบหน้าการพัฒนาท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ดังนี้
1.งานก่อสร้างคันทางและระบบป้องกันน้ำท่วม ท่าอากาศยาน ดำเนินการไปแล้วกว่า 96.19%
2.โครงการก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย หลังที่ 2 งบประมาณ 24.3 ล้านบาท ดำเนินการไปแล้วกว่า 88.36%
3.โครงการก่อสร้างจุดตรวจบุคคลและยานพาหนะเข้า-ออกเขตพื้นที่การบิน ผลงานที่ทำได้คิดเป็น 45.03%
4.โครงการปรับปรุงที่พักผู้โดยสาร และปรับปรุงภูมิทัศน์ (ขยายต่อเติมห้องโดยสารขาออก) วงเงิน 43.6 ล้านบาท ผลงานที่ทำได้เพียง 36.18%
5.โครงการระบบจัดการการรักษาความปลอดภัยพื้นที่การบินและเครือข่ายดาวเทียม วงเงิน 41.688 ล้านบาท ผลงานก้าวหน้าอยู่ที่ 50.50%
6.โครงการก่อสร้างรั้วปิดเขตการบิน และเพิ่มลวดหนามของรั้วรอบบริเวณท่าอากาศยาน วงเงิน 25 ล้านบาท ผลงานทำได้เพียง 9%
7.โครงการติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบ EDS พร้อมสายพานลำเลียงสัมภาระ วงเงิน 107.8 ล้านบาท เสร็จสิ้นแล้ว 100%
8.โครงการก่อสร้างต่อเติมห้องน้ำ วงเงิน 9.5 ล้านบาท เสร็จสิ้นแล้ว 100%
9.โครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 2 วงเงิน 1,458 ล้านบาทเศษ ผลงานที่ทำได้ 4.8% ก้าวหน้ากว่าแผนงาน 1.6%
นายถาวรกล่าวว่า “ผมมาจี้ ติดตามงานพัฒนาท่าอากาศยานนครศรีฯ มาตั้งแต่ผมเริ่มรับตำแหน่งกว่า 3-4 ครั้งแล้ว บางงานก่อสร้างดำเนินการตั้งแต่ก่อนผมมารับตำแหน่ง มาถึงวันนี้ยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร อาทิ งานต่อเติมอาคารผู้โดยสารขาออก ช้ามาก และท่อระบายน้ำก็เล็กมากจนผมกังวลว่า ฝนตกหนักจะระบายน้ำได้ทันได้อย่างไร ผมจึงสั่งให้คณะทำงานผม ซึ่งมี พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ประธานคณะทำงานมาตรวจติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยในวันพรุ่งนี้ ส่วนที่ผมพอใจและติดตามความคืบหน้ามาโดยตลอด คือ งานก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 2 ซึ่งก้าวหน้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ ”
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
