“จุรินทร์”ดึง60องค์กร ร่วม9แนวทางบริหารจัดการผลไม้3ล้านตัน สู้ภัยโควิด-19

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุม”การขับเคลื่อนมาตรการช่วยผลไม้ไทย สู้ภัย COVID” ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า จากการคาดการณ์ว่าผลผลิตผลไม้หลักของไทยในปี 2563 ทุกชนิดจะมีผลผลิตรวม 3 ล้านตัน และเพิ่มจากปีก่อน 10% โดยผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากสุดในเดือนเมษายนนี้ จึงได้ประชุมเตรียมความพร้อมในการกระจายผลไม้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ กับลงนามความร่วมมือภาครัฐและเอกชน 60 องค์กร อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาคมค้าปลีก-ค้าส่ง กลุ่มตลาดสด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ สายการบิน สมาคม โลจิสติกส์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (...)  ล้ง และ กลุ่มเกษตรกรผลไม้ เพื่อป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาด และราคาตกต่ำ รวมถึงแก้อุปสรรคด้านต่างๆ ในภาวะเจอผลกระทบจากไวรัสโควิด-19

นายจุรินทร์ กล่าวว่า พร้อมกันนี้ได้เตรียม 9 แนวทางในการบริหารจัดการผลไม้ปี 2563 ประกอบด้วย 1. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนงบประมาณ 3 ล้านบาท เพื่อเร่งรัดตรวจสอบและออกใบรับรองสวนผลไม้ตามมาตรฐานสากล และสนับสนุนเยาวชนเป็นแรงงานเสริมในช่วงการเก็บเกี่ยวผลไม้ที่ออกสู่ตลาดพร้อมกัน ลดปัญหาขาดแคลนแรงงาน 2. ตั้งศูนย์รวบรวมผลไม้ที่จันทบุรี

3.จัดทำแผนกระจายผลไม้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศ ร่วมมือกับสมาคมตลาดกลางขนาดใหญ่ ที่มีทั่วประเทศ 20 ตลาด เช่น ตลาดไท ช่วยดูดซับผลผลิตรวมของผลไม้ ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวม 60-70% รวมถึงค้าปลีกสมัยใหม่ในการกระจายสินค้าถึงผู้บริโภค พร้อมกันนี้ 6 สายการบิน คือ แอร์เอเชีย ไทยสมายล์ บางกอกแอร์เวย์ นกแอร์ ไลออนแอร์ และการบินไทย พร้อมให้บริการผู้โดยสารสามารถหิ้วผลไม้ขึ้นเครื่องฟรีสำหรับน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม

4.ร่วมกับแพลตฟอร์มกระจายผลไม้ด้วยระบบออนไลน์ เช่น ไทย Post Mart ของไปรษณีย์ไทย ลาซาด้า ช้อปปี้ จตุจักรมอลล์ ไทยเทรดดอทคอม เป็นต้น 5. การส่งเสริมการขายในประเทศ โดยกรมการค้าภายใน ร่วมกับภาคเอกชนและศูนย์การค้าทั่วประเทศจัดโปรโมชันรณรงค์บริโภคผลไม้ไทย

ADVERTISMENT

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า 6. เป็นมาตรการผลักดันส่งออก โดยตลาดจีนที่เป็นตลาดใหญ่และส่งออกผ่านล้งเป็นหลัก เพื่อลดขั้นตอนเตรียมลงนามความร่วมมือระหว่างบริษัทห้องปฎิบัติการกลาง(ประเทศไทย) จำกัด หรือเซ็นทรัล แล็ป ไทย กับ CCIT แล็ปของจีน ลดการตรวจซ้ำ พร้อมกับจัดคาราวานผลไม้ไปยังต่างประเทศเป้าหมายติดชายแดนไทย จัดโรดโชว์ จัดจับคู่ธุรกิจให้ผู้ส่งออกของเราพบผู้นำเข้าจากต่างประเทศ และเจรจาลดอุปสรรค โดยในวันที่ 10 มีนาคมอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ พบกับทูตของประเทศอินโดนีเซียประจำประเทศไทยเพื่อให้ไทยสามารถส่งออกไปอินโดนีเซียได้ ขณะนี้ยังไม่อำนวยความสะดวกให้เราสามารถส่งไปขายที่อินโดนีเซียได้

“เพื่อให้ผลไม้ไทยได้ส่งออกได้มาก และลดภาระผู้ส่งออกในสถานการณ์ปัจจุบัน จึงให้ 3 มาตรการช่วยเหลือสำหรับผู้ซื้อสินค้าไทยและส่งออก คือ ชดเชยดอกเบี้ย 3% ระยะเวลา 6 เดือนสำหรับผู้ส่งออก สหกรณ์การเกษตรที่รวบรวมผลไม้ในประเทศช่วยชดเชยดอกเบี้ย 3% ระยะเวลา 10 เดือน เตรียมวงเงิน 1,000 ล้านบาทจากเงินกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร ส่วนตลาดกลาง ก็จะขอการสนับสนุนด้วยเช่นกัน ซึ่งกรมการค้าภายในเจรจาธนาคาร “ นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า 7. ลดปัญหาการค้าไม่เป็นธรรม โดยจะนำกฎหมายดูแลการค้าไม่เป็นธรรม มาดูแลเรื่องการทำสัญญาซื้อขาย แนะใช้สัญญากลางมาตรฐาน และการเอาผิดล้งผิดสัญญา จนสร้างความเดือดร้อนเกษตรกรไทย 8. เตรียมพร้อมจัดส่งและโลจิสติกส์ โดยของความร่วมมือกับการบินไทย ในการขนส่งสินค้าผ่านเครื่องบินไปยังต่างประเทศให้สะดวกคล่องตัวและเพิ่มพื้นที่ส่งออกผลไม้มากขึ้น ส่วนระบบคมนาคมทางบกเรื่องรถบรรทุก 10 ล้อ สมาคมได้ยืนยันให้ความร่วมมืออย่างเพื่อกระจายตลาดใหญ่ 20 แห่ง และร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังผลกระทบจากสินค้าการเกษตรที่เกิดจาก COVID-19 โดยผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถให้ข้อมูลและขอความช่วยเหลือห้องเรียนได้ที่ www.nabc.go.th ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image