หญิงหน่อย แนะประชาธิปัตย์ พรรคร่วมรัฐบาล ยึดจุดยืนเพื่อประชาชน
เมื่อเวลา 12.12 น. วันที่ 10 มีนาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) คณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคพท. นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการ นายชัยเกษม นิติสิริ นายโภคิน พลกุล น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ฯลฯ
การที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆ ได้ และมุ่งสืบทอดอำนาจ วันนี้เหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายของประชาชนที่รอการแก้ไขจากรัฐบาลที่มีความสามารถ และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเราไม่ได้เห็นการปรับปรุงแก้ไขปัญหาอะไรของรัฐบาลแม้แต่เรื่องเดียว วันนี้ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับผิดชอบสิ่งที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ รวมถึงความล้มเหลว ความผิดพลาด และการทุจริตนี้ นอกจากนี้ ขอเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาลว่า ในเมื่อรัฐบาลนี้แก้ไขปัญหาใดๆไม่ได้ ก็ขอเรียกร้องจิตสำนึกของพวกท่านสว่าจะยังอยู่ร่วมรัฐบาลอยู่อีกหรือ
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้เรามีผู้อภิปราย 3 ท่านยื่นหนังสือผ่านประธานสภา เรื่อง
1.การอาศัยบ้านพักหลวง โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคพท. ยื่นหนังสือต่อประธานสภาเพื่อให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมถึงความเป็นนายกฯสิ้นสุดลงหรือไม่
2.การจัดซื้อจัดจ้างระบบไบโอแมททริคของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคพท. เพื่อให้ป.ป.ช.ดำเนินกาตรวจสอบการทุจริต
โดยนายชัยเกษม ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม กำลังจะส่งรายละเอียดให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าไปตรวจอีกทางหนึ่ง และ 3. กรณีที่นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคพท. ได้อภิปราย มี 3 ประเด็น คือ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เสียภาษีให้รัฐกรณีการซื้อขายที่ดินย่านบางบอน ต่อมาคือ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เก็บภาษีกรณีบริษัทฟิลลิป มอรีส และ พล.อ.ประยุทธ์พฤติกรรมทุจริตในโครงการจัดซื้อรถหุ้มเกราะยูเครน โดยเรื่องนี้ได้ยืนต่อ ป.ป.ช.ไปแล้วเพื่อให้ตรวจสอบ
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะออกจากการร่วมรัฐบาล แล้วมาสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านจนได้เป็นรัฐบาล คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เรายังมองไปไม่ถึงตรงนั้น วันนี้ที่สะท้อนคือเราเป็นตัวแทนของประชาชน เพราะ ส.ส.เราได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนมา ส่วนการร่วมอยู่ในรัฐบาลแก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ สื่อคงต้องไปถามพรรคร่วมรัฐบาลแทนประชาชน