เฉลียงไอเดีย : กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ เผยไอเดียสร้างเมืองคู่ป่า ผ่าน‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’

เฉลียงไอเดีย : กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ เผยไอเดียสร้างเมืองคู่ป่า ผ่าน‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’

เฉลียงไอเดีย : กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ เผยไอเดียสร้างเมืองคู่ป่า ผ่าน‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’

จากสภาพแวดล้อมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ มาพร้อมกับการเกิดขึ้นของภาวะอากาศที่เป็นพิษและเชื้อโรคต่างๆ อย่างที่วันนี้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผสมกับการมีฝุ่นละออง PM2.5 น่าจะรบกวนความเป็นอยู่ของเราไปอีกนาน ทำให้เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มหยิบขึ้นมาเป็นโจทย์ในการพัฒนาที่พัก….

หนึ่งในนั้นคือ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ประกาศลงทุนโครงการ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ซึ่งมาพร้อมกับแนวคิด โครงการต้นแบบแห่งใหม่ของโลกในการพัฒนาเมือง ซึ่งมาพร้อมกับแนวคิดที่ระบุไว้ว่า MQDC กำลังสร้างโครงการเมืองแห่งแรกของโลกที่ออกแบบทุกมิติมาเพื่อการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้น ซึ่งอยู่ในระหว่างการออกแบบรังสรรค์และก่อสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการยอมรับและยกย่องมากที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก รวมทั้งสถาบันต่างๆ ที่เป็นสถาบันชั้นนำระดับโลก เพื่อให้มั่นใจว่าทุกองค์ประกอบของโครงการจะส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งการออกแบบโครงการได้รับการยอมรับจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ใน T.H. Chan School of Public Health ว่าเป็นโครงการที่มีวิสัยทัศน์ดีเยี่ยม

คุณกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ เล่าถึงที่มาของโครงการว่า “องค์ประกอบทั้งหมดของ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ถูกออกแบบขึ้นเป็นพิเศษโดยเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์อย่างเดียวคือ ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นและความสุขที่มากขึ้นของผู้อยู่อาศัยในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน โดยองค์ประกอบต่างๆ ครอบคลุมไปถึงการจัดวางพื้นที่สาธารณะ การจัดวางพื้นที่ที่อยู่อาศัย การผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อการใช้ชีวิตในอนาคต การบริหารจัดการแสงธรรมชาติ เสียง ความร้อน การหมุนเวียนของอากาศ คุณภาพอากาศ และคุณภาพน้ำ ซึ่ง มีงานวิจัยระบุอย่างชัดเจนว่าหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดซึ่งช่วยส่งเสริมการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้นและมีความสุขมากขึ้นก็คือ ความใกล้ชิดกันระหว่างสมาชิกในครอบครัวและคนที่เรารัก”

Advertisement

โครงการ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 398 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด กม.7 ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เดิมนั้นตั้งมูลค่าโครงการไว้ 90,000 ล้านบาท แต่เมื่อได้มีการเพิ่มเติมหลากหลายแนวคิดที่ต้องการให้ผู้เข้ามาร่วมในโครงการเห็นว่าจะเป็นที่อยู่ที่ดีที่สุด มูลค่าการลงทุนจึงเพิ่มเป็น 125,000 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าจะเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของไทยในขณะนี้

ด้วย เดอะ ฟอเรสเทียส์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ของระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นระเบียงเศรษฐกิจที่เติบโตรวดเร็วที่สุดของประเทศไทย สามารถเข้าถึงทางด่วนและการคมนาคมขนส่งมวลชนที่สำคัญได้โดยง่าย การก่อสร้างเส้นทางถนนในโครงการ และการตอกเสาเข็มสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของโครงการ ปัจจุบันเสร็จสมบูรณ์แล้ว 90% ซึ่งตามแผนงานโครงการนี้จะสมบูรณ์แบบภายในปี 2564

Advertisement

โครงการนี้ประกอบด้วย ที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม ได้แก่ คอนโดมิเนียมแบรนด์ “วิสซ์ดอม” คอนโดมิเนียมแบรนด์ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ” ที่อยู่อาศัยแบรนด์ “มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า” ที่อยู่อาศัยแบรนด์ “ดิ แอสเพน ทรี” ที่อยู่อาศัยแบรนด์ “ซิกซ์เซนส์” ที่ได้ออกแบบที่หลากหลายของไลฟ์สไตล์และขนาดของครอบครัว มีพื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ กิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม

รวมถึงพื้นที่สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้ที่สนุกและสร้างสรรค์ของครอบครัว ใน Family Life Center จัดสรรพื้นที่ Town Center สำหรับจัดกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ โรงละคร อีเวนต์ฮอลล์ ตลาด ทางเดินยกระดับความยาวกว่า 1.6 กิโลเมตร ซึ่งรวมทางเดินที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่างๆ และองค์ประกอบหลายส่วนในโครงการ และทางเดินที่ทอดตัวอยู่เหนือผืนป่าซึ่งอยู่บริเวณใจกลางโครงการ มอบเป็นเส้นทางเดินเท้าท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

คุณกิตติพันธุ์กล่าวเสริมว่า หนึ่งในองค์ประกอบที่มีความพิเศษโดดเด่นของ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คือ ป่าขนาดใหญ่ พื้นที่ 30 ไร่ ที่เริ่มปลูกมาตั้งแต่เป็นเมล็ดและต้นกล้า ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของโครงการ สร้างความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศ ซึ่งจะพัฒนาเติบโตและมีวิวัฒนาการความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่อไปอีกเรื่อยๆ

“ตอนนี้เริ่มสร้างระบบนิเวศการเป็นป่าธรรมชาติ ได้เริ่มปลูกไม้พันธุ์ดั้งเดิมของไทย ไม้พันธุ์หายากกว่า 250 ชนิด รวมกันประมาณ 3 หมื่นต้น ทุกตารางเมตรจะมีพันธุ์ไม้ถึง 4 ต้น ภายใน 3 ปีจากนี้ พื้นที่แห่งนี้จะกลายเป็นป่าใหญ่ในเมืองและเปิดให้เป็นแหล่งศึกษาพันธุ์ไม้พันธุ์พืชที่ใกล้กรุงเทพฯ

“การพัฒนาผืนป่าขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยงบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านบาทคือหัวใจสำคัญของ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดยผืนป่าแห่งนี้ประกอบด้วยพื้นที่ ‘ป่าลึก’ ที่เป็นป่าลึกที่อุดมสมบูรณ์ของจริง รวมทั้งพื้นที่ป่าที่มนุษย์สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายจากทางเดินเท้า และมีพื้นที่สีเขียวเปิดโล่งที่ให้ผู้คนสามารถเข้าไปใช้ชีวิตและเป็นส่วนหนึ่งท่ามกลางความมหัศจรรย์ของธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนไร้รอยต่อ”

อีกไฮไลต์ของโครงการคือการตอบสนองในเรื่องการใช้ชีวิตรวมกันได้มากที่สุดในทุกระดับอายุ โดยมีพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยซึ่งถูกออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งกว่าที่เคย รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะทางสำหรับกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน คลับเฮาส์ และผู้ดูแลที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี พร้อมกับดึงสังคมมาใกล้ตัวที่สุด กับการมีโรงแรมระดับ 5 ดาว หรือโรงแรมซิกซ์เซนส์ และศูนย์การแพทย์และสุขภาพขนาดใหญ่ที่มีเครื่องมือทันสมัยที่สุด และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทยจำนวนหนึ่ง พร้อมกับคลายวิตกในเรื่องเดิม เช่น มีระบบการป้องกันน้ำท่วมแม้ต้องเผชิญกับพายุฝนครั้งใหญ่ มีพื้นที่กักเก็บน้ำทิ้งขนาดใหญ่รองรับน้ำได้มากกว่า 10 ล้านลิตร

“ที่นี่เบื้องต้นจะมีบ้านเดี่ยว37 ยูนิต ส่วนคอนโดประมาณ 1,200 ยูนิต เราได้มีนวัตกรรมที่เป็นวิธีการนำพาสมาชิกในครอบครัวจากหลากหลายเจเนอเรชั่นให้มาอยู่ใกล้ชิดกัน ด้วยการวางผังองค์ประกอบของพื้นที่ที่อยู่อาศัยโดยรอบโครงการอย่างพิถีพิถัน ทั้งหมดถูกออกแบบเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของคนแต่ละช่วงวัยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นวัยเริ่มต้นทำงาน คู่สมรสใหม่ วัยสร้างครอบครัว หรือพ่อแม่สูงวัย ทำให้ทุกคนได้อยู่ใกล้ชิดกับลูก หลาน และพ่อแม่ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างมีอิสระและมีพื้นที่ส่วนตัว

“ในโครงการเน้นการสัญจรไปมาด้วยการเดินเท้า ทั้งเพื่อความสะดวกสบายและเพื่อความสุขสดชื่นจากการได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ตลอดจนเพื่อการมีสุขภาพที่ดีจากการเดินออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งทางเท้าและถนนได้ถูกวางผังจัดเส้นทางไว้อย่างดี ปกคลุมด้วยแนวกั้นและร่มเงาของพืชพรรณตามธรรมชาติที่ออกแบบอย่างละเอียดรอบคอบ คาดว่าผืนป่าจะทำหน้าที่เป็นปอดสีเขียวขนาดใหญ่ของไทย ที่สามารถช่วยกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นปริมาณมหาศาล ซึ่งปริมาณการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในโครงการ เทียบเท่ากับปริมาณที่พื้นที่ปลูกต้นไม้ขนาด 30,000 ไร่ จะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้”

คุณกิตติพันธุ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำระดับโลกได้ด้วยแนวคิดอันก้าวล้ำนำสมัยในด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและของชุมชนที่อยู่โดยรอบ พร้อมกับส่งเสริมในเรื่องนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ซึ่งในอนาคตรูปแบบอย่าง เดอะ ฟอเรสเทียส์ จะกลายเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ต้นแบบที่นำไปใช้ในการพัฒนาโครงการที่ครบเครื่องแบบเดียวกันนี้ตามต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ และการออกสู่ตลาดต่างประเทศในอนาคตด้วย…ในอีกไม่นานนี้

นวลนิตย์ บัวด้วง

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image