หลังจากที่ “แอ๊ด คาราบาว” ยืนยง โอภากุล พร้อมสมาชิกวงได้ไปขึ้นเวทีเล่นคอนเสิร์ต ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.แม่สอด จ.ตาก จนกลายเป็นประเด็นดราม่า โดยทางด้านของ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธ์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้มีคำสั่งย้าย นายกันต์พงษ์ พิพัฒมนตรีกุล ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง ไปเป็นอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก นั้น
ล่าสุด นายชุมพล ฉุยฉาย ผู้จัดการวงคาราบาว ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวที่ชื่อว่า Chumpon Chuichai ระบุว่า
ขอชี้แจงข้อเท็จจริงงานคอนเสิร์ตที่แม่สอดหน่อยครับจะได้เข้าใจความเป็นมาความจริง คอนเสิร์ตทั้งหมดของวงคาราบาวในช่วงนี้ถูกยกเลิกไปหมดแล้วไม่ใช่เพราะมีคำสั่งประกาศของรัฐบาลแต่เป็นคนจัดแจ้งมาขอยกเลิกบอกไม่มีคนดูเพราะกลัวโควิดคำสั่งมหาดไทยพึ่งมาภายหลัง
เดิมงานนี้เจ้าของร้านก็แจ้งยกเลิกมาก่อนแต่วันที่18เจ้าของร้านได้โทรมาขอให้กลับมาเล่นเพราะว่าได้ขายบัตรให้คนดูไปมากแล้วขอให้เห็นใจเขาพี่แอ๊ดก็เลยตกลงขึ้นไปเล่น
โดยกำหนดการแสดงจะเล่น4ทุ่ม แต่พอไปถึง เจ้าของร้านบอกให้เล่นเร็วหน่อย
วงก็เลยรีบขึ้นประมาณ3ทุ่มพอเล่นไปได้ไม่กี่เพลงมี คนมาบอก จนท.ให้เลิก4ทุ่มพี่แอ๊ดก็เลยโมโหว่าร้านโทรมาขอให้เล่นกระทันหันก็รีบมาแต่มาแล้วเล่นไปไม่กี่เพลงบอกให้เลิกพี่แอ๊ดก็เลยฟิวขาดด่าออกไปด้วยคำแรงๆตามที่ได้ยินคลิปเป็นการด่า จนท.ว่าใช้อำนาจตามอำเภอใจมาบังคับให้วงเลิกเล่นทั้งๆที่คืนวันที่18ยังไม่มีคำสั่งห้ามเล่นคอนเสิร์ตทั่วประเทศพึ่งมีคำสั่งภายหลังไม่ได้ด่ารัฐบาลเพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ข้อเท็จจริงนี้ ดูได้จากที่เจ้าของร้านโพสต์ในFacebook
วันรุ่งขึ้นพี่แอ๊ดเห็นคลิปที่ส่งกันในโซเชียลก็รู้สึกเสียใจที่อารมณ์ร้อนด่าเหมาไปหลายคน
ผม อยากชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า พี่แอ๊ดไม่ได้มีความคิดต่อต้านเรื่องรัฐบาลจะปิดผับบาร์เพื่อจะเล่นคอนเสิร์ตแม้แต่น้อยพี่แอ๊ดเข้าใจดีว่าเรื่องโควิด19เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องการให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศได้ระวังป้องกันและร่วมมือร่วมใจกันต่อสู้กับภัยร้ายจากไวรัสโควิด19
ได้มีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรับมือไวรัสโควิดจนได้แต่งเพลงให้ กำลังใจหมอและพยาบาลตลอดจนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ถือว่าเป็นแนวหน้าของสงครามไวรัสโควิดในครั้งนี้ซึ่งก็ใช้เวลาอยู่หลายวันในการจัดทำเนื้อร้องและทำนองให้มีพลังในการที่จะขอความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศในการต่อสู้กับโรคร้ายนี้ และได้มอบเพลงนี้ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาไปเผยแพร่ได้ฟรีโดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆ