โบรกฯหนุนรัฐทุ่มงบตั้งกองทุนพยุงตราสารหนี้ เชื่อช่วยประคองตลาดทุนพ้นปากเหวได้

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กระทรวงการคลัง สมาคมธนาคารไทย และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ออกมาตรการรับมือสถานการณ์โควิด-19 โดยตั้งกลไกดูแลตลาดตราสารหนี้ของไทยหลังจากตราสารหนี้ถูกเทขายอย่างหนัก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของตลาดการเงิน ทำให้ตลาดการเงินไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ โดยที่ผ่านมา ธปท.ได้ช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องในตลาดการเงิน เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ ผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลกว่า 100,000 ล้านบาทในช่วง วันที่ 13 -20 มีนาคม 2563 ลดและยกเลิกการออกพันธบัตรธปท.ไป

นายกรภัทรกล่าวต่อว่า รวมถึงได้มีมาตรการ 3 ด้านออกมา ได้แก่ 1.กองทุนรวมตราสารหนี้ ได้จัดตั้งกลไกพิเศษเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่กองทุนรวมผ่านธนาคารพาณิชย์ 2.ตราสารหนี้ภาคเอกชน สมาคมธนาคารไทย ธนาคารออมสิน ธุรกิจประกันภัย และกองทุนบำเหน็จ บำนาญข้าราชการ ร่วมกันจัดตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่องเพื่อลดความเสี่ยงของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ วงเงินเริ่มต้น 70,000 – 100,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนออกใหม่ของบริษัทที่มีคุณภาพดี แต่ประสบปัญหาตลาดขาดสภาพคล่องจนส่งผลให้ไม่สามารถต่ออายุตราสารหนี้ที่ครบกำหนดได้ครบทั้งจำนวน และ 3.ตราสารหนี้ภาครัฐ มีความพร้อมในการดูแลให้กลไกตลาดตราสารหนี้ภาครัฐทำงานได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และมีสภาพคล่องเพียงพอ ผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

“การที่ธปท. เข้ามาช่วยเยียวยาในลักษณะนี้ จริงๆ จากภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ล่าสุด ก็ถือว่ามาตรการที่ออกมา ช่วยให้ตลาดตราสารหนี้นิ่งขึ้น โดยขนาดการจัดตั้งกองทุนขึ้นมา มีมูลค่ากว่า 70,000-100,000 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 30-50% ของตลาดตราสารหนี้ระยะสั้น จึงถือว่ามาตรการของภาครัฐที่ออกมาค่อนข้างเร็ว และน่าจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มเติมได้บางส่วน แต่ต้องดูว่าความกังวลของนักลงทุนมีมากน้อยแค่ไหน จะสามารถชะลอการไถ่ถอนตราสารหนี้ได้หรือไม่ ซึ่งหากทำได้ก็จะช่วยให้ตลาดตราสารหนี้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยจากการประเมินเบื้องต้นพบว่า ตลาดตราสารหนี้ดูดีขึ้น เทียบกับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีแรงไถ่ถอนตราสารหนี้ออกมาค่อนข้างมาก” นายกรภัทรกล่าว

นายกรภัทรกล่าวว่า สำหรับอานิสงค์กับตลาดหุ้นไทย ความจริงแล้วหากตลาดตราสารหนี้ไม่ได้เหวี่ยงรุนแรง ก็จะช่วยทำให้ดัชนีไม่ผันผวนมากนักได้ แต่ตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ ตอบรับกับภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและมีปัจจัยเสี่ยงขนาดใหญ่กดดันอยู่ โดยสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจตอนนี้หดตัวทั้ง 2 ทาง ทั้งตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น จึงต้องทยอยประเมินว่า ภาพของการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จะรุนแรงมากขึ้นขนาดไหน ความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโลกในภาพรวมจะสิ้นสุดตรงไหน ตลาดยังอยู่ในช่วงของการประเมินปัจจัยเหล่านี้อยู่ จึงต้องค่อยๆ หาฐานของตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง

Advertisement

นายกรภัทรกล่าวว่า ตราสารหนี้ที่อยู่ในกลุ่มระดับดีถึงดีที่สุด นักลงทุนไม่น่าจะมีความกังวลในการลงทุนของตนเองมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะมีเครดิตค่อนข้างดี แต่เมื่อเกิดภาพแบบนี้ขึ้น สภาพคล่องที่หดตัวลงในระบบ อาจส่งผลกระทบกับตราสารหนี้ที่อยู่ในกลุ่มปานกลางลงมา ซึ่งจะต้องระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น โดยการที่ตราสารหนี้ขาดสภาพคล่อง จะทำให้การลงทุน และการดำเนินการของบริษัทมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้ แต่โดยรวมมาตรการของภาครัฐค่อนข้างเข้ามาทำได้ดี ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผ่านมา หากภาครัฐมีมาตรการในลักษณะนี้ออกมา ก็มักช่วยพยุงตลาดทุนไปต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image