เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 24 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศ ที่ประตูหน้าด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่2 ติดเชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่2 อ.แม่สอด จ.ตาก เจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดนถาวรแม่สอดฝั่งประเทศไทย ได้ปิดล็อกประตูทางเข้าออกด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่2 ตามคำสั่งของจังหวัดตากที่สั่งปิดด่านพรมแดนถาวรแม่สอดทั้งสองแห่งเป็นวันที่สอง ส่วนถนนทางเข้าออกด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่2 กลายเป็นจุดรวมพลของแรงงานสัญชาติเมียนมาหลายพันคน ที่เดินทางมาจากกรุงเทพโดยรถบัสโดยสารจำนวนมาก จนการจราจรติดขัด ซึ่งกลุ่มแรงงานสัญชาติเมียนมาต่างขนกระเป๋าสัมภาระแบกขึ้นเหนือศีรษะที่มีน้ำหนักมากมายืนล้อมประตูด่านพรมแดน
เจ้าหน้าที่แจ้งว่าด่านพรมแดนปิดจนแรงงานหลายคนเกิดความเครียด เนื่องจากว่าจะไม่สามารถเดินทางข้ามแดนพรมแดนแม่สอดแห่งที่2 ข้ามไปในพรมแดนประเทศเมียนมาได้ และเนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดก็ทำให้แรงงานชายรายหนึ่งซึ่งมีโรคประจำตัวได้เกิดอาการเป็นลมชักล้มลงไปนอนกองกับพื้นถนน ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนคนงานนับพันคน
เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจต้องรีบช่วยเหลือนำตัวไปปฐมพยาบาลจนแรงงานคนดังกล่าวอาการปลอดภัย จากนั้นแรงงานสัญชาติเมียนมาก็ยังคงแห่ทะลัก มุ่งหน้ามาที่ประตูด่าน อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสองประเทศต้องประสานงานด่วนระหว่างจังหวัดตากและจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา จนมีมติชั่วคราวให้ผ่อนปรนให้แรงงานจำนวนมากได้ข้ามด่านพรมแดนได้เป็นกรณีพิเศษชั่วคราวเป็นวันที่สอง หลังเมื่อวานนี้มีแรงงานสัญชาติเมียนมาจำนวน 2084 คนแห่มาข้ามด่านพรมแดนที่จุดนี้ และวันนี้คาดว่าจะมีแรงงานสัญชาติเมียนมาแห่ทะลักมาขอข้ามด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 มากกว่าเมื่อวานอย่างแน่นอน
นางสาวมะทิน อายุ 40 ปี แรงงานสัญชาติเมียนมา กล่าวว่า ตนพร้อมเพื่อนคนงานอีกหลายคนทำงานในร้านอาหารในพื้นที่กรุงเทพ ขณะนี้กรุงเทพปิดเมืองเนื่องจากมีโรคโควิด-19ระบาด จนร้านอาหารที่ตนเองทำงานอยู่ต้องปิดตัว
“ทำให้แรงงานตกงานจึงต้องตัดสินใจทิ้งงานจากกรุงเทพ เดินทางกลับบ้านเกิดในประเทศเมียนมา ซึ่งต้องเดินทางตลอดทั้งคืนจากกรุงเทพมาถึงด่านพรมแดนแม่สอด ซึ่งถ้าหลังสถานการณ์ในประเทศไทยดีขึ้นก็จะเดินทางข้ามพรมแดนกลับมาทำงานที่กรุงเทพอีกครั้ง” นางสาวมะทิน กล่าว
