ขรก.ท้องถิ่นแนะตั้งด่านลอยตรวจคัดกรองบุคคลเข้าพื้นที่เทศบาล – อบต.ป้องกันโควิด-19
วันที่ 25 มีนาคม นายศักดิพงศ์ ธรรมอาชวกุล ประธานสมาพันธ์ปลัดเทศบาลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด –19 ทั่วประเทศ ยืนยันว่าผู้บริหารและข้าราชการองค์กรปกครองท้องถิ่น(อปท.)ทุกระดับจะให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนปฏิบัติภารกิจเพื่อให้ประชาชนทั้งพื้นที่ชุมชนเมืองและชนบทมีความปลอดภัย โดยเบื้องต้นทราบว่า อปท.ทั่วประเทศได้ออกพ่นยาฆ่าเชื้อในแหล่งชุมชน ตลาดนัด ตลาดสด สถานที่ราชการ วัด โรงเรียน โดยใช้งบประมาณเงินสะสมสำรองจ่าย แต่ยังมีปัญหายาฆ่าเชื้อไม่เพียงพอกับความต้องการเช่นเดียวกับปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ
“สำหรับการคัดกรองบุคคลเดินทางกลับจาก กทม.และจังหวัดปริมณฑล ขอให้ตั้งด่านลอยเหมือนช่วงเทศกาลปีใหม่ เทศกาลสงกรานต์ ตั้งตามจุดต่างๆ เพื่อคัดกรองบุคคลบนถนนสายหลัก สายรองมีเจ้าหน้าที่ประจำ โดยใช้ อปพร. ที่เบิกเบี้ยเลี้ยงจากท้องถิ่น รวมทั้งเบิกค่าล่วงเวลาให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต. ) พร้อมจัดให้มีเครื่องมือวัดไข้อย่างเพียงพอ ส่วนกรณีเฝ้าระวังคนเดินทางจากพื้นที่เสี่ยงกลับมาอยู่บ้าน ท้องถิ่นจะร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลาดตะเวนในหมู่บ้าน พร้อมทำความเข้าใจ ว่าคนกลุ่มเสี่ยงไม่ใช่ คนป่วย หรือผู้ติดเชื้อ จากนั้นมีการบันทึกข้อมูลอย่างชัดเจน โดยท้องถิ่นสามารถสนับสนุนเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงทำงานนอกเวลา และค่าใช้จ่ายอื่นได้”นายศักดิพงษ์ กล่าว
ประธานสมาพันธ์ปลัดเทศบาลแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า ในท้องถิ่นจะมีการแจ้งเตือนให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงผ่านหอกระจายข่าว เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ทราบ พร้อมชี้แจงสิ่งที่ประชาชนจะต้องปฏิบัติ หากเร็วๆนี้มีการกำหนดมาตรการประกาศให้ทุกคนงดออกจากบ้าน การจัดส่งสิ่งของเครื่องใช้ การจัดซื้อสินค้า หรืออาหาร ท้องถิ่นสามารถประสานงานได้กับทุกภาคส่วน และ อาจจะต้องหารือกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เพื่อผ่อนคลายกฎระเบียบบางประการที่มีความจำเป็นในการรับส่งผู้ป่วยหรือญาติในช่วงที่มีโรคระบาด
นายทวีศักดิ์ ศรีทองกิติกูล ประธานมูลนิธิปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) แห่งประเทศไทย กล่าวว่า พนักงาน อบต.ทั่วประเทศมีความพร้อมในการทำหน้าที่ตามนโยบาย ข้อสั่งการจากรัฐบาลและหน่วยงานระดับจังหวัด อำเภอ แต่ล่าสุดกระทรวงมหาดไทย (มท.)แจ้งเพียงแนวทางการซักซ้อมการจ่ายขาดเงินสะสมเพื่อนำไปใช้จ่ายในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาด ขณะที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ยังไม่มีหนังสือสั่งการใดๆให้ อปท. เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ หลังจากคาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ใน กทม.หรือพื้นที่ชุมชนเมือง จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด เนื่องจากส่วนหนึ่งตกงานกรณีมีการปิดสถานที่บางแห่ง หรือหวั่นวิตกปัญหาจากโรคระบาด
“ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ อบต.มีศักยภาพ มีความพร้อม เพื่อคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่อย่างเป็นระบบ ขณะนี้มี อบต.บางแห่งเริ่มดำเนินการแล้วโดยไม่รอหนังสือสั่งการของส่วนกลางหรือระดับจังหวัด เพื่อต้องการทำงานเชิงรุก มากกว่าการตั้งรับเพื่อแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะการวางระบบป้องกันที่ดี จะป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย เนื่องจากการแก้ไขปัญหาโรคระบาดมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการเร่งด่วน ทุกท้องถิ่นจะต้องพึ่งพาตนเอง ตามภารกิจที่สามารถทำได้โดยใช้กระบวนการการมีส่วนร่วม ”นายทวีศักดิ์ กล่าว
