จากกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด ได้ประกาศยกเลิกกองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ มีการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งไม่เข้าข่ายมาตรการการดูแลสภาพคล่องของกองทุนรวมตราสารหนี้ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมา ขณะเดียวกัน การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศด้วยสัดส่วนที่ค่อนข้างสูงในภาวะนี้ส่งผลให้เกิดความผันผวนที่สูงตามไปด้วย จึงเกิดการขายด้วยความตื่นตระหนก จากผู้ถือหน่วยลงทุนทั้ง 2 กองทุน ซึ่งไม่ได้เกิดจากการผิดนัดของตราสารหนี้แต่อย่างใด ส่งผลให้ช่วงวันที่ 16-25 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา กองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูนและกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ มีขนาดลดลง 49% และ 75% ตามลำดับ
“การยุติการขายกองทุนทั้ง 2 กอง เป็นการให้โอกาสผู้จัดการกองทุนในการที่จะทยอยขายทรัพย์สินในกองทุนเหล่านั้นออกมา เพื่อประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุน ขณะที่กองทุนอื่นๆ ไม่ได้มีลักษณะเช่นนี้ โดยมั่นใจว่าการเลิกขายทั้ง 2 กองทุน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกองทุนอื่นๆ ของบลจ. และอุตสาหกรรมกองทุนรวมตราสารหนี้ของไทยโดยผู้ถือหน่วยลงทุนทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวที่ทำธุรกรรมก่อนวันที่ 25 มีนาคม 2563 จะได้รับการดำเนินงานตามที่ส่งคำสั่งไว้”นายสมจินต์กล่าว
นายสมจินต์กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการหลังปิดกองทุนแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการที่เรียกว่า การชำระราคา โดย 5 วันทำการแรกนับจากวันที่มีเหตุให้เลิกกองทุน ในกรณีนี้นับจากวันที่ 26 มีนาคม ถึงวันที่ 2 เมษายน 2563 ผู้จัดการกองทุนจะขายสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องที่เหมาะสม รับเงินก้อนแรกเพื่อชำระเงินคืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนใน 5 วันทำการถัดไป ซึ่งจะตรงกับช่วงวันที่ 3-9 เมษายน 2563 และหากยังไม่มีสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องเหมาะสมที่จะขายได้ บลจ.จะขยายเวลาชำระราคาให้ประมาณ 90 วัน เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนทำหน้าที่ดูแลและตัดสินใจขายสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหน่วยลงทุน โดยหากมีความจำเป็นอื่นอื่นๆ บลจ.จะหารือกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อที่จะยืดเวลาเพิ่มเติม ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพคล่องตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกในระดับที่เหมาะสมและค่าใช้จ่ายในการซื้อขายที่ไม่สูงจนเกินไป
นายสมจินต์กล่าวว่า บลจ.จะไม่คิดค่าธรรมเนียมนับตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม เป็นต้นไป และยืนยันว่าจะบริหารจัดการเงินในทั้ง 2 กองทุนให้ดีที่สุด โดยการเลิกกองทุนเพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับประโยชน์สูงสุด ถือเป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันในต่างประเทศ อาทิ อังกฤษ ยุโรป นอกจากนี้ สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนที่ติดใน 2 กองทุนดังกล่าว ทีเอ็มบี หรือธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ต่อไป สำหรับการดำเนินการเพื่อเลิกกองทุนรวมเมื่อเกิดเหตุที่ทำให้ต้องเลิกตามประกาศของ ก.ล.ต. มีรายละเอียดคือ 1.ยุติการรับคำสั่งซื้อและคำสั่งขายคืน 2.แจ้งผู้ถือหน่วยและ ก.ล.ต. ภายใน 3 วันทำการ 3.จำหน่ายหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินเพื่อรวบรวมเงินภายใน 5 วันทำการ 4.ชำระค่าขายคืนภายใน 10 วันทำการและเมื่อชำระค่าขายคืนแล้ว ให้ถือว่าเลิกกองทุนไป
