นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณี บลจ.ทหารไทย ปิดการซื้อขายหน่วยลงทุน 4 กองทุน ไม่ใช่ว่ากองทุนไม่ดี แต่ในสภาวะแบบนี้บางเกิดความตื่นตระหนก จำเป็นภาครัฐต้องเข้าไปช่วยดูแล ซึ่งกองทุนที่มีแม่เป็นธนาคารพาณิชย์ แม่เข้าไปดูแล ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ดูแลเข้าไปช่วยดูแลอีกระดับหนึ่ง และ กำชับสื่อสารให้เข้าใจให้ชัดเจน อย่าไปสร้างความสับสน และตื่นตระหนก
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธทป.) กล่าวว่า การปิดขายหน่วยลงทุนของ บลจ.ทหารไทย (TMBAM Eastspring) เกิดจากนักลงทุนไถ่ถอนจำนวนมาก ทำให้กองทุนต้องปิดเพื่อบริหารสภาพคล่อง เพราะต้องนำสินทรัพย์ถืออยู่ เช่น ตราสารหนี้ และเงินฝากระยะยาวไปเร่ขาย และในภาวะตลาดบางผิดปกติ ทำให้ขายได้ราคาต่ำ ส่งผลต่อมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(NAV)ลดลง ทำให้ผู้ถือตระหนกและตกใจ ซึ่งถ้าไปกองทุนเปิดทหารไทยธนพลัส ที่ปิดลง NAVไม่ได้ลดลงมาก และยังอยู่ในระดับสูง ถ้าเทียบกันแล้ว NAV ขณะนี้คือขาดทุนกำไร ดังนั้นยังไม่อยากให้นักลงทุนตื่นตระหนก
นายวิรไทยกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ถือหน่วยลงทุนหลังจากปิดกองทุนคือ ผู้ถือหน่วยลงทุนยังไม่ได้เงิน ต้องรอให้บลจ.ทหารไทย ขายสินทรัพย์ที่ถืออยู่ให้ได้ก่อน ซึ่งในช่วงเวลาสั้น ธนาคารทหารไทย เข้าไปดูแลด้วยการให้ผู้ถือหน่วยลงทุนนำมูลค่าหน่วยลงทุนกู้เงินกับธนาคารทหารไทยในอัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำมาก ๆ ซึ่งจะป้องกันผลกระทบทำให้ตลาดตราสารหนี้ เป็นการรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน ไม่ให้NชAVต่ำกว่าควรจะเป็น
ทั้งนี้ถ้าไปดูการลงทุนของกองทุน บลจ.ทหารไทยปิดไปนั้น แตกต่างกับ 60 กองทุนที่เหลือ ที่เน้นการลงทุนในประเทศเป็นหลัก ดังนั้นเท่าที่ติดตามยังไม่มีพฤติกรรมการขายหรือไถ่ถอนหน่วยลงทุนผิดปกติ แม้จะมีการไถ่ถอนบ้าง แต่มาจากความต้องการใช้เงินจริงของผู้ถือหน่วยลงทุนเท่านั้น จึงเชื่อว่าการขายเร่งขายหน่วยลงทุน 4 กองทุนของบลจ.ทหารไทยจะไม่กระทบต่อกองทุนที่เหลือ และการดูแลสภาพคล่องของตลาดเงินตลาดทุนเวลานี้ ธปท.ได้มีการติดตามใกล้ชิด และพร้อมเข้าไปดูแลสภาพคล่องตลอดเวลา และพบว่าในช่วงที่ผ่านมา มีธนาคารพาณิชย์ ที่ถือหน่วยลงทุน เข้ามาสอบถามติดต่อเพื่อขอสภาพคล่องกับธปท.บ้างแล้ว
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต)กล่าวว่า บลจ.ทหารไทยแถลงเมื่อตอน 5 ทุ่มเมื่อวันที่ 26 มีนาคมว่า ว่าอีกสองกองทุนของบริษัทคือกองทุนเปิดทหารไทยธนพลัส กับธนไพศาล จะไม่รับซื้อไม่รับขาย และขอปิดกองทุน ซึ่งเป็นอำนาจบริหารของ บลจ. เพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วย
ทั้งนี้ภาพกองทุนรวมตราสารหนี้ของไทยมี 64 กองเมื่อหัก 4 กองของบลจ.ทหารไทย เหลือ 60 กองทุน ส่วนหนึ่งที่บลจ.ทหารไทยปิดตัว 4 กองทุน เพราะถือในพันธบัตรต่างประเทศเกิน 50 % แต่ในขณะที่กองทุนรวมตราสารหนี้ของ บลจ.อื่นๆ กลับด้านกัน เพราะเน้นลงทุนในพันธบัตร หุ้นกู้มีคุณภาพ เอขึ้นไปในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ มีลงทุนต่างประเทศเป็นส่วนน้อย
“บลจ.ทหารไทยเจอการไถ่ถอนจำนวนมาก มากกว่าทุกๆครั้ง โดยเฉพาะกองทุนเปิดทหารไทยธนพลัส มีการไถ่ถอนประมาณ 1 ใน3 ของ NAV ของเขา บลจ จึงคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนจึงตัดสินใจปิดกองทุน”นางสาวรื่นวดีกล่าว
