โลกสอนให้รู้จัก การจัดระเบียบใหม่ ‘หมู อาซาว่า’ โควิดทำให้มีสติมากขึ้น

หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา

โลกสอนให้รู้จัก การจัดระเบียบใหม่ ‘หมู อาซาว่า’ โควิดทำให้มีสติมากขึ้น

 

นับเป็นสถานการณ์ที่หลายคนไม่ทันได้ตั้งรับ กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบทั้งสุขภาพและเศรษฐกิจไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจใด

เช่นเดียวกับ หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา แห่งแบรนด์อาซาว่า ดีไซเนอร์ชื่อดังของเมืองไทยและผู้ก่อตั้ง Asava Group ที่ก็เป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบและต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าวเช่นกัน ทั้งเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่รอบตัว

เชื่อไหมว่าเกิดมาใช้ชีวิตจะครึ่งศตวรรษ เพิ่งรู้ว่าล้างมือที่ถูกต้องเป็นอย่างไรŽ พลพัฒน์เริ่มบทสนทนาอย่างอารมณ์ดี ในวันเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่จากแบรนด์ MOO นำเสนอเสื้อผ้าที่เพิ่มเติมในเรื่องของสีสัน ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและสอดแทรกความสนุกสนานตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน

Advertisement

”ช่วงเวลาแบบนี้ ทำให้เรามีสติมากขึ้น ให้กำลังใจมากขึ้น เป็นช่วงที่เราต้องมีพลังบวก เป็นบททดสอบหนึ่ง ก็คิดเสียว่าได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้น ได้คลีนอัพบริษัท ทำอะไรหลายอย่าง ฝรั่งเรียกว่า ไทม์ ทู รีเฟล็กซ์ คือ เราสามารถหาประโยชน์ในช่วงเวลาร้ายๆ นี้ได้เสมอ ก็รักษาตัวและคนรอบข้าง โลกสอนให้เราได้รู้จักการจัดระเบียบใหม่Ž”

แน่นอนว่าสถานการณ์ต่างๆ ที่เข้ามา ทำให้อาซาว่าต้องปรับตัวอยู่ไม่น้อย ซึ่งพลพัฒน์ก็บอกว่า โชคดี ที่มีแผนของบริษัทอยู่แล้วŽ

“ที่ผ่านมาเราพูดเรื่องดิสรัปชั่นมาตลอด เราก็รู้ว่าปี 2020 จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับทุกคน เราก็คิดทำออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง และวางแผนจะมูฟบางส่วนมาเป็นออนไลน์ จัดอีเวนต์น้อยลงบ้าง อย่างแบรนด์หมูหมู แบรนด์ใหม่ก็ไม่ได้มีหน้าร้านเลย ขายแต่ออนไลน์ ก็ถือว่าเราโชคดีที่เตรียมการไว้Ž”

Advertisement
หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา
หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา

อย่างเสื้อผ้าของ MOO 2020 ก็สามารถหาซื้อได้ช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ อินสตาแกรม และเฟซบุ๊ก

พลพัฒนเผยอีกว่า ถามว่ากระทบไหม เราก็กระทบ ไม่มีใครอยากช้อปปิ้งหรอก และเราก็รู้สึกประหลาดที่มาขายของกันตอนนี้ แต่สิ่งสำคัญคือ เรากลัวได้ ตื่นได้ แต่ต้องไม่ตระหนก ตอนนี้ทุกธุรกิจต้องการความช่วยเหลือ คนในชาติต้องช่วยกัน อะไรที่ทำได้ก็ต้องทำ ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เศรษฐกิจมันขับเคลื่อน เพราะทุกคนยังต้องกินต้องใช้ เลี้ยงปากท้อง พนักงานยังต้องการเงินเดือน พนักงานขายก็ยังต้องการค่าคอม แล้วทำอย่างไรให้สังคมมันผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน คนมีโอกาสมากกว่าก็ต้องช่วยเหลือคนที่เล็กกว่า ดูแลกันเป็นทอดๆ อาซาว่าเอง ก็ยังต้องดูแลคู่ค้าเล็กๆ ของเรา ทุกอย่างมันกระทบกันเป็นโดมิโน คนทั่วไปก็สั่งอาหารให้มาส่งบ้าง ให้เศรษฐกิจมันเคลื่อนได้

”เราบอกทุกคนว่า ครั้งนี้มันเหมือนสงครามโลกครั้งที่ 3 เห็นทั้งเหยียดเชื้อชาติและชนชั้น โชคดีที่เราไม่ได้ฆ่ากันตาย สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ ก็คือจับมือกันแก้ไข ไม่โทษใคร เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสอนเรา เราอาจจะเป็นเจเนอเรชั่นที่โตมากับความสบาย แต่กับพ่อแม่เรา เขาผ่านสงครามโลกมา ครั้งนี้ทุกชาติได้รับบททดสอบ จะก้าวผ่านไปได้อย่างไรŽ”

แน่นอนว่าเมื่อคำแนะนำของแพทย์ที่ว่า อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติŽ ดูจะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด พลพัฒน์จึงสนับสนุนให้เวิร์กฟรอมโฮมเช่นกัน โดยว่า เราก็อยากให้คนมาออฟฟิศน้อยที่สุด แต่แน่นอนมันทำแบบนั้น 100% ไม่ได้ เพราะเราเป็นโปรดักชั่น ต้องมีประชุม เช็กคิวซีของต่างๆ ก็คงต้องมาเจอกันบ้าง เราหยุดงานของเราไม่ได้ เพื่อที่วันหนึ่งเศรษฐกิจมันดีขึ้น เราจะช่วยพยุงให้มันเดินข้ามผ่านวิกฤตได้ เราในฐานะเป็นหัวหน้าครอบครัว ก็ต้องดูแลบริษัท เรามีลูกน้องที่เขาต้องเลี้ยงลูก เลี้ยงหลาน ก็จำเป็นต้องขับเคลื่อนไป

”สำหรับเรา คนที่เป็นเซอร์ไวเวอร์ คนที่เป็นผู้นำทั้งทางความคิดและการทำงาน มันต้องผ่านพ้นวิกฤตนี้ได้ เป็นตัวอย่างที่ดีของการไม่ยอมแพ้ เราไม่ควรเอาสิ่งใดมาอ้างทำให้ผลงานเราตก หรือผลผลิตตก สิ่งนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าบริษัทที่ดี มีคุณภาพ ร่วมด้วยช่วยกัน จะก้าวต่อไป”Ž พลพัฒน์ทิ้งท้าย

และในวันที่เผชิญวิกฤตทั้งโรคระบาด และเศรษฐกิจ ดีไซเนอร์ดัง ได้สูญเสียคุณพ่อ อุทัย อัศวะประภา นักธุรกิจในแวดวงยานยนต์ชื่อดัง อย่างไม่มีวันกลับ

กระนั้น เขาก็ยังคงดำรง สติŽ ได้เป็นอย่างดี โดยโพสต์แจ้งข่าวการเสียชีวิตของบิดาลงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมระบุว่า

“กราบเรียนทุกท่านเนื่องด้วยสถานการณ์ไม่ปกติในเรื่อง โควิด-19 ณ ขณะนี้ เราตระหนักถึงความปลอดภัยของทุกท่านเป็นสำคัญ และขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพอยู่ที่บ้าน เพื่อช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งในการลดการแพร่ระบาด ตามมาตรการการป้องกันของภาครัฐ ทางเจ้าภาพขอขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูง และขอความกรุณาทุกท่านส่งกำลังใจผ่านช่องทางอื่นๆ แทน และขอความกรุณางดพวงหรีด ผู้ที่ประสงค์ร่วมทำบุญ สามารถร่วมบริจาคให้แก่มูลนิธิโรงพยาบาลศิริราช เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย ชื่อบัญชี นายอุทัย อัศวะประภา เพื่อมูลนิธิศิริราช ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 172-4-08502-0 ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพ และขอขอบพระคุณอย่างสูงมา ณ ที่นี่” พลพัฒน์ อัศวะประภาŽ

ท่ามกลางวิกฤตกำลังถาโถม สิ่งที่ช่วยให้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปได้ คือ สติŽ เฉกเช่นผู้ชายคนนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image