วันที่ 28 มีนาคม 2563 นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในฐานะประธานในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการบริหารจัดการลดการเกิดไฟปา ตลอดจนฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ว่า สาเหตุมาจากสถานการณ์ไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอหางดง และอำเภอแม่ริม ที่เกิดขึ้นเป็นประจำในระยะที่ผ่านมา และทวีความรุนแรง ขยายลุกลามเป็นวงกว้าง ทำให้ประชาชนในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ และอำเภอใกล้เคียงเกิดความวิตกกังวล และก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าปกคลุมทั่วพื้นที่เขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ และอำเภอใกล้เคียง
ซึ่งในวันนี้ (28 มีนาคม 2563) พบว่าสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เริ่มคลี่คลาย โดยภารกิจช่วงบ่ายวันนี้เฮลิคอปเตอร์ ปภ. (KA-32) จะปฏิบัติการบินโปรยน้ำดับไฟจุดแหลมสน (ดอยผาดำ) ใกล้บ้านม้งดอยปุย และขุนช่างเคี่ยน ตำบลสุเทพ มีจุดไฟไหม้เกิดขึ้นใหม่และปะทุจากเดิมเมื่อคืนนี้ มีกำลังเจ้าหน้าที่เสือไฟ เหยี่ยวไฟ และอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย เข้าทำแนวกันไฟและเฝ้าระวังไว้ตลอดทั้งคืน เพื่อป้องกันการลุกลาม โดยในเช้าวันนี้ได้สนธิกำลังกับหน่วยงานทุกภาคส่วนรวมกว่า 200 นาย เร่งดับไฟอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ทีมโดรนจิตอาสาบินขึ้นสำรวจบริเวณใกล้กับพระธาตุดอยคำ ตำบลแม่เหียะ และจุดบ้างปง อำเภอหางดง ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงบริเวณเดิมที่เกิดไฟป่าขึ้นในช่วงกลางดึก หากพบจุดที่เกิดไฟจะแจ้งพิกัดมายังศูนย์บัญชาการฯ จังหวัด เพื่อนำเฮลิคอปเตอร์ MI 17 ของกองทัพบก บินขึ้นโปรยน้ำในจุดนั้น ในส่วนของเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจำนวน 3 ลำ ปฏิบัติการบินโปรยน้ำดับไฟบนพื้นที่สูงชันตั้งแต่ช่วงเช้า ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจบินที่อำเภอเชียงดาวอย่างเร่งด่วน เนื่องจากตรวจพบจุดความร้อน 65 จุด โดยเฉพาะพื้นที่บ้านนาเลา ตำบลเชียงดาวที่มีจุดความร้อนพุ่ง 15 จุด ในพื้นที่เขาสูงชันและเหวลึก และเป็นจุดเดิมที่ลุกลามจากเมื่อวานนี้ 5 จุด ที่หน่วยดับไฟภาคพื้นดินเข้าไม่ถึง
พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์ศิลป์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ยังคงจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ได้ทุกวัน โดยล่าสุดจับกุมได้ 2 รายในพื้นที่ อำเภอฝาง
อย่างไรก็ตาม ดาวเทียมระบบ Viirs ตรวจสอบพบจุดความร้อน หรือ Hotspot จำนวน 518 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 212 จุด ป่าอนุรักษ์ 294 จุด เขต สปก. 1 จุด ชุมชนและอื่นๆ 6 จุด พื้นที่เกษตร 3 จุด พื้นที่ริมทาง 2 จุด ทำให้คุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในระดับ มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่า PM 2.5 สูง 353 ไมโครกรัมต่อลุกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ที่ ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว แจ้งประชาชนทุกคนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบแอพพลิเคชั่นพบว่า คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่เป็นพิษ อันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก อ.สะเมิง พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงถึง 1,000 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่การลุกไหม้ของผืนป่าในพื้นที่ต่างๆ ยังรุนแรงและดับไม่สนิท โดยเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
