สภาเด็กฯ ห่วงพนันออนไลน์-สูบบุหรี่ รุกหนักเยาวชนช่วงกักตัว จ่อดีไซน์กิจกรรมสร้างสรรค์ สู้ภัยโควิด-19

ภาพประกอบ

สภาเด็กฯ ห่วงพนันออนไลน์-สูบบุหรี่ รุกหนักเยาวชนช่วงกักตัว จ่อดีไซน์กิจกรรมสร้างสรรค์ สู้ภัยโควิด-19

 

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นางสาวสุภาพิชญ์ ไชยดิษฐ์ ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาเด็กฯ ได้ขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ชีวิต ในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก จัดรายการให้ความรู้ความเข้าใจแก่เด็กและเยาวชน ซึ่งเผยแพร่ผ่านไลฟ์เฟซบุ๊กสภาเด็กฯ ทุกเวลา 20.00 น. ของทุกวัน วันละประมาณ 1 ชั่วโมง ทำมาระยะหนึ่งแล้ว โดยได้เชิญสภาเด็กฯ จากภูมิภาคต่างๆ มารายงานสถานการณ์ และเสียงสะท้อนต่างๆ รวมถึงเครือข่ายเด็กและเยาวชน แพทย์ นักวิชาการ และผู้เกี่ยวข้องมาให้คำแนะนำ

ประธานสภาเด็กฯ กล่าวอีกว่า ในรายการมีคำแนะนำสำคัญๆ ตั้งแต่กิจกรรมสร้างสรรค์ช่วงกักตัว อย่างเยาวชนที่ศึกษาระดับมหาวิทยาลัย แนะนำเรื่องการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ ที่ขณะนี้มีหลักสูตรต่างๆ เช่น การเรียนภาษา ทำขนม อาหาร รวมถึงการให้เฝ้าระวังเด็กและเยาวชนไทยช่วงนี้ ที่การกักตัวทำให้เกิดความเครียด ทำให้อาจสูบบุหรี่มากขึ้น ซึ่งสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทยตือนว่าการสูบบุหรี่ ทั้งเสี่ยงสุขภาพเสียหาย ยิ่งมีสุขภาพปอดที่ไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิม ก็มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากขึ้น เช่นเดียวกับเสี่ยงเข้าถึงวงการพนันออนไลน์ ที่เครือข่ายคนรุ่นใหม่ไม่พนัน ห่วงว่าการพนันขณะนี้เข้าถึงง่าย มีโฆษณาแฝงในสื่อออนไลน์เกือบทุกช่องทาง ขณะเดียวกันยังมีแอปพลิเคชั่นแบงค์กิ้ง ทำให้เล่นง่าย โอนไว ฉะนั้นจึงพยายามให้ความรู้ที่ถูกต้อง ว่าเว็บพนันพวกนี้หน้าบ้านอาจดูดี แต่หลังบ้านเขาเซ็ตระบบไว้หมดแล้ว ว่าเล่นช่วงแรกๆ จะได้มากกว่าเสีย พอเล่นไปสักระยะ จะเริ่มเสียมากกว่าได้

และสอง สภาเด็กฯ กำลังร่วมมือกับ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ทำแบบสำรวจออนไลน์เด็กและเยาวชนไทยในช่วงกักตัวสถานการณ์โควิด เพื่อจะดูว่าขณะนี้เด็กและเยาวชนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องโควิด-19 แค่ไหน คิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงหรือไม่ และระหว่างนี้อยากรู้และพัฒนาตัวเองด้านไหน เพื่อจะได้ดีไซน์กิจกรรมออนไลน์ร่วมกัน เป็นการซัปฃบพอร์ตน้องๆ ที่อยู่บ้าน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทำการสำรวจในเด็กและเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย 5,000 คนทั่วประเทศ ภายใน 2-3 วันนี้

Advertisement

นางสาวสุภาพิชญ์ กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้มีคำพูดว่าพวกวัยรุ่นไม่ชอบกักตัวเองอยู่บ้าน ซึ่งเท่าที่สอบถามสภาเด็กและเยาวชนจากภูมิภาคเบื้องต้น ไม่มีใครแจ้งปัญหานี้ อาจด้วยว่าทุกคนกักตัวอยู่ในบ้าน เลยไม่ทราบปัญหานี้ แต่ทั้งนี้ กลับมีว่า นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีนโยบายอยากให้สภาเด็กและเยาวชนเข้าไปดูแลผู้สูงอายุในชุมชน เพราะมองว่าเราเป็นกลุ่มคนแข็งแรง ติดเชื้อได้ยากกว่า ตรงนี้สภาเด็กฯได้พูดคุยเบื้องต้น ว่าช่วงนี้ควรเก็บตัวมากกว่า เพราะเราไม่รู้ว่าจะเป็นพาหะของเชื้อไวรัสหรือไม่ ฉะนั้นหาวิธีช่วยทางอื่นจะดีกว่า ที่จะปลอดภัยกับทุกฝ่าย อย่างสภาเด็กระดับตำบลจะสอบถามไปที่ชุมชนว่ามีความต้องการอะไรหรือไม่ เพราะการจะให้คนแปลกหน้าเข้าไปพื้นที่เลย ประชาชนจะตระหนกมากกว่าตระหนัก

“ตอนนี้เห็นแคมเปญบริจาคเพื่อซื้ออุปกรณ์สิ่งของ ซับพอร์ตบุคลากรทางการแพทย์มากมาย ดิฉันเห็นด้วยกับชาเล้นท์นี้ แต่อีกใจก็คิดว่าทำไมประชาชนจะต้องมาทำสิ่งนี้เอง ทั้งที่เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องจัดสรรให้เพียงพอ อย่างที่ห่วงเลยคือ อสม.ที่ออกไปปฏิบัติงาน เขามีอุปกรณ์และความรู้ที่เพียงพอและถูกต้องแล้วหรือไม่ เพราะไม่งั้นกลายเป็นว่าเขาก็เสี่ยงเอง

อย่างไรก็ตาม ที่รัฐออกมาตรการให้คนกักตัวอยู่ในบ้าน ทำงานจากบ้าน ก็อยากถามว่าแล้วกลุ่มคนไร้บ้าน รัฐจะให้พวกเขาไปอยู่ตรงไหน และในส่วนเด็กและเยาวชนที่จำเป็นต้องออกจากบ้าน เช่น กลุ่มน้องอาสากู้ภัย ได้ช่วยเหลือเขาอย่างไร” นางสาวสุภาพิชญ์กล่าว

Advertisement

ส่วนความกังวลเรื่องการเรียนและเปิดภาคการศึกษาที่ 1/2563 ได้หรือไม่ นางสาวสุภาพิชญ์ กล่าวว่า คิดว่าแต่ละสถาบันการศึกษาคงคิดและเตรียมการไว้แล้ว แต่ที่กังวลคือเด็กและเยาวชนจะอยู่ติดหน้าจอมากขึ้น ไม่มีการทำกิจกรรมทางสังคม ซึ่งในเด็กโตหน่อยไม่กังวล แต่ห่วงเด็กเล็ก ที่จะไม่ได้ทำกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการตามช่วงวัย ซึ่งอาจส่งผลต่อพัฒนาการของน้องๆ

นางสาวสุภาพิชญ์ ไชยดิษฐ์
นางสาวสุภาพิชญ์ ไชยดิษฐ์
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image