การแถลงข่าวความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป แสดงความห่วงใยต่อการติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นในต่างจังหวัด โดยระบุว่า การแพร่กระจายเชื้อในภูมิภาค เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ใน กทม. เช่น ผู้อยู่ในสนามมวย สถานบันเทิง เดินทางไปต่างจังหวัด การประกาศปิดสถานประกอบการใน กทม. มีคนกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ขณะนี้เริ่มมีผู้ป่วยไปโผล่ในต่างจังหวัด และจะพบผู้ป่วยอาการหนักในต่างจังหวัดได้ในช่วงหลังจากนี้เป็นต้นไป
นพ.โสภณกล่าวว่า ในหลายจังหวัดที่พบผู้ป่วยการทำงานของจังหวัดมีความเข้มแข็ง มีการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ปฏิบัติการส่วนอื่น เช่น การตรวจพบผู้ป่วยที่เข้ามาในพื้นที่ ดูได้จากกรณีของสนามมวย จะพบว่ามีผู้เดินทางจากสนามมวยไปยังภูมิภาค สามารถทำการสอบสวนและควบคุมโรคได้ เริ่มต้นด้วยการหาผู้สัมผัสใกล้ชิด เช่น คนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน บุคคลอื่นๆ และหลังจากนั้นจะทำการตรวจหาการติดเชื้อไวรัส จึงทำให้ทราบว่ามีผู้ป่วยที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดมีมากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นที่น่าชื่นชม
ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อยังระบุว่า การทำงานที่เข้มแข็ง มาจากประชาชนให้ความร่วมมือมากกว่า เป็นลักษณะของสังคมต่างจังหวัดที่ห่วงใยกัน ผู้ที่เดินทางกลับจาก กทม.กักกันตนเองในระยะ 14 วัน อย่างเข้มงวด ไม่สัมผัสใกล้ชิดกับคนในพื้นที่ ทำให้การแพร่เชื้อก็น่าจะน้อยลงด้วย โดยทางผู้บริหารเขตสุขภาพ ผู้ตรวจราชการสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สามารถให้การดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีคุณภาพไม่ต่างจากใน กทม. เนื่องจาก สธ.มีการกระจายยาไปในทุกพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากคำแถลงของ น.พ.โสภณ ถือว่าเป็นข่าวดี เป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างประชาชนกับภาคราชการ ช่วยกันรับมือสถานการณ์ที่หลายฝ่ายห่วงใยว่าจะทำให้สถานการณ์ไปสู่อีกจุดที่วิกฤตยิ่งกว่า ทางรัฐบาลจึงต้องหาทางเสริมจุดแข็งนี้โดยเร็ว สนับสนุนการทำงานของแต่ละจังหวัด ด้วยงบประมาณและเครื่องมือ รวมถึงอุปกรณ์ที่จำเป็น
