‘หม่อมเต่า’ เผยประกันสังคมช่วยลูกจ้างผู้ประกันตนรับพิษ ‘โควิด-19’ 15 ล้านคน

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือแรงงาน ผู้ประกันตน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย จนกระทั่งยกระดับสถานการณ์เป็นภาวะวิกฤต ตนได้สั่งการทุกหน่วยงานในกระทรวงแรงงานวางมาตรการเพื่อช่วยเหลือแรงงาน โดยเฉพาะในส่วนของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) มาตรการที่ออกมาแล้ว และผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว คือ
1.การลดอัตราเงินสมทบนายจ้าง และลูกจ้างมาตรา 33, 39 ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์รวมทั้งสิ้น 13,346,143 ราย
2.การขยายระยะเวลาการนำส่งเงินสมทบให้แก่นายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 นายจ้างได้รับประโยชน์ 488,226 ราย ผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้รับประโยชน์ 1,653,714 ราย
3.การเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย ทั้งยังเพิ่มสิทธิไปถึง กรณีว่างงานเนื่องมาจากกรณีถูกเลิกจ้าง และลาออกเอง
4.การส่งเสริมให้มีการจ้างงาน โดยขยายระยะเวลาโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน วงเงิน 30,000 ล้านบาท
5.การดูแลรักษา ให้ สปส.ดำเนินการเพิ่มสิทธิการรักษาแก่ผู้ประกันตนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และผู้ประกันตนที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 เท่าเทียมกับการรักษาทั้ง 3 กองทุน

“มาตรการดังกล่าวได้ดำเนินการแล้ว เหลือเพียงกระบวนการบังคับใช้แต่จากการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ พบว่าสถานการณ์แพร่กระจายของไวรัสโคโรนา 2019 ยังคงต่อเนื่อง ตนจึงได้ปรับเพิ่มมาตรการเพื่อช่วยเหลือแรงงาน และผู้ประกันตนเพิ่มมากขึ้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2563 ได้ประชุมวางหลักการแก้กฎกระทรวงเพื่อเยียวยาลูกจ้างผู้ประกันตน กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อให้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยไม่ต่ำกว่าเดือนละ 5,000 บาท ซึ่งในเรื่องนี้จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาโดยเร็วที่สุด” ม.ร.ว.จัตุมงคลกล่าว

ด้านนายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการ สปส.กล่าวถึงกรณีการนำส่งเงินสมทบของสถานประกอบการ และผู้ประกันตน รวมทั้งการยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า สปส.มีช่องทางให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในการที่สถานประกอบการ และผู้ประกันตน สามารถเข้าไปใช้บริการได้ รายละเอียดปรากฏอยู่ใน www.sso.go.th

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image