จับแล้ว! ช่างหนุ่ม ตระเวนกระชากสร้อย ย่านบางนา สารภาพ ใช้หนี้ ‘พนันออนไลน์’
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 31 มีนาคม พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางนา ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ศุภากร แก้วเขียว รอง ผกก.สส.สน.บางนา พ.ต.ต.นพพร สัมพันธ์แพ สว.สส.สน.บางนา และพ.ต.ต.เพิ่มสกุล นิลขำ สว.สส.สน.บางนา ร่วมกันนำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา และตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ จับกุมตัวนายธนวัฒน์ เสาวิสิทธิ์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตระเวนกระชากสร้อยคอทองคำ
พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MSX สีน้ำเงิน-เทา ทะเบียน 5กก 7371 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน กุญแจรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 ดอก เสื้อคลุมแขนยาว(แบบมีฮู๊ต) สีเทา จำนวน 1 ตัว กางเกงขาสั้น สีเขียวเข้ม จำนวน 1 ตัว หมวกกันน็อค แบบเต็มใบ สีดำ จำนวน 1 ใบ และรองเท้าแตะ ยี่ห้อ Cambol สีดำ จำนวน 1 คู่ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณตลาดใหม่ปากซอยร่วมสังสรรค์ ถนนสุขาภิบาล 7 ตำบลสำโรง อำเภอพระรปะแดง จังหวัดสมุทรปราการ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มีนาคม เวลาประมาณ 15.30 น. คนร้ายได้ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำ หนัก 2 สลึง บริเวณหน้า ทางเข้า คอนโดแห่งหนึ่ง ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากก่อเหตุได้ทรัพย์สินไป ต่อมาไม่นานก็ยังได้ไปก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหายอีกราย ที่บริเวณปากซอย ซอยลาซาล 8 แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ ได้ทรัพย์สินไป จนมีเพจเฟซบุ๊ก นำไปโพสแชร์ภาพและข้อความต่อไป จนมีผู้เข้ามาให้ความสนใจเป็นจำนวนมากถึงเรื่องความปลอดภัย แม้จะอยู่ในห้วง การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 นี้ก็ตาม
จากนั้นทางตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา และตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ จึงสนธิกำลังกันลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตลอดจนตรวจสอบเส้นทางการหลบหนี โดยพบว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นรถจักรยานยนต์ที่เห็นชัดเจน ต่อมาทางชุดสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายรายนี้เป็นนายธนวัฒน์ จึงทำการสืบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง ตลอดจนขออนุมัติออกหมายจับ กระทั่งมีเบาะแสว่าผู้ต้องหารายนี้มาปรากฎที่ตลาดใหม่ปากซอยร่วมสังสรรค์ ถนนสุขาภิบาล 7 ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ และนำกำลังไปจับกุมไว้ได้
จากการสอบสวน นายธนวัฒน์ ให้การยอมรับสารภาพว่า มีอาชีพช่างซ่อมบำรุงบริษัทแห่งหนึ่ง เงินเดือนไม่พอใช้เพราะต้องเลี้ยงดูครอบครัว ลูกที่ยังเล็ก หนำซ้ำติดพนันออนไลน์บาคาร่า จนมีหนี้สินติดตัวจำนวนมาก โดยลงมือก่อเหตุไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งตนนำทรัพย์สินที่ได้จากการก่อเหตุไปขายที่ร้านทอง ได้เงิน จำนวน 11,000 บาท ก่อนนำเงินที่ได้มาใช้จ่าย และก่อเหตุเป็นครั้งแรกเท่านั้น ไม่พบประวัติคดีอาชญากรแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่เชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
